xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ" เรียกสอบ "บัญชีม้าคนไทย" ปัดเอี่ยวเก็บค่าหัวคิวแรงงาน 2,500 บาท แต่รับทำธุรกิจกับฝั่งกัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ดีเอสไอ" ทยอยเรียกสอบพยานคดีค่าหัวคิวแรงงานกัมพูชา แจง "บัญชีม้าคนไทย" ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องแต่รับทำธุรกิจกับคนกัมพูชาจริง พบสัมพันธ์โยงเจ้าหน้าที่ระดับสูง

จากกรณีเมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีดีเอสไอ , ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ , พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ , นายจินกร แก้วศรี รองผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจค้น 4 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบริษัทนำคนต่างด้าวมาทำงานกับนายจ้างในประเทศ เป็นผู้ดำเนินการรับต่อใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานสัญชาติกัมพูชา ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ เพื่อเก็บพยานหลักฐาน ขบวนการรีดหัวคิวแรงงาน รายละ 2,500 บาท นำไปฟอกเงินผ่านเจ้าหน้าที่กัมพูชา โดยพบความเกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐไทย-กัมพูชา

วันนี้ (5 ส.ค.) แหล่งข่าวจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าทางคดี ว่า ขณะนี้คณะพนักงานสืบสวนที่ 27/2568 เตรียมนำสำนวนคดีเข้าที่ประชุมบอร์ดชุดเล็กดำเนินการ ก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พิจารณารับเป็นคดีพิเศษตามกฎหมาย แต่ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะรับเป็นคดีพิเศษภายในเดือน ส.ค. หรือไม่

แหล่งข่าวดีเอสไอ เผยว่า ส่วนการเรียกบุคคลเข้ามาสอบปากคำในฐานะพยานทยอยมาให้ข้อมูลต่อเนื่อง อาทิ นายจ้าง ผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน รวมถึง กรรมการบริษัทเอกชน ย่านคลองสามวา กรุงเทพฯ ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ประเด็นค่าหัวคิวแรงงานกัมพูชาแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด นอกจากนี้ กลุ่มบัญชีม้าคนไทยในนามบุคคลและนิติบุคคล เดินทางมาให้ข้อมูลกับคณะพนักงานสืบสวนแล้ว พร้อมนำพยานหลักฐานมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องค่าหักหัวคิวแรงงานกัมพูชา แต่ยอมรับมีการทำธุรกิจกับนักธุรกิจชาวกัมพูชาจริง มีการโอนเงินไปฝั่งกัมพูชา ส่วนนักธุรกิจกัมพูชาจากการตรวจสอบพบว่าเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่กัมพูชากันอยู่

แหล่งข่าวดีเอสไอ ระบุอีกว่า กรณีเจ้าหน้าที่รัฐกัมพูชา ร่วมกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานแต่ตอนนี้ยังไปไม่ถึงในระดับนั้น และความผิดยังมี 2 ข้อหา "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ส่วนความผิดอื่นต้องตรวจสอบเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจค้นพบว่าไม่มีการเก็บค่าหัวคิวแรงงานกัมพูชา 2,500 บาทแล้ว ซึ่งพบข้อมูลเพียงประเทศเดียว โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายเร่งทำคดีอย่างรัดกุม


กำลังโหลดความคิดเห็น