ก.ต.โยกย้ายผู้พิพากษา 79 บัญชี “จีระพัฒน์”นั่ง อธิบดีศาลอาญาคนใหม่ “ธานี สิงหนาท ” เป็นอธิบดีศาลเเพ่ง “ธนรัตน์”คุมปราบทุจริตฯ “อินทิรา”นั่งอธิบดีศาลเเรงงานกลาง
วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ห้องประชุมราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ชั้น 3 อาคารศาลยุติธรรรม สนามหลวง
นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม(ก.ต.) ครั้งที่ 19 /2568
โดยมีวาระสำคัญคือที่ประชุม ก.ต.เห็นชอบบัญชีโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการตุลาการ ในวาระโยกย้ายแต่งตั้ง
บัญชี 3 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่งจำนวน79 บัญชีรายชื่อ
โดยมีรายชื่อผู้พิพากษาชื่อดังที่น่าสนใจเเละดำรงตำเเหน่งสำคัญอาทิเช่น
1. นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี ผู้พิพากษาศาลฎีกาไปดำรงตำเเหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา
2. นายธนรัตน์ ทั่งทอง อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ไปดำรงตำเเหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง
3.นายธานี สิงหนาท อธิบดีผู้พิพากษาศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ ไปดำรงตำเเหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเเพ่ง
4.นายสายโชค ศรีทอง ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกาไปดำรงตำเเหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้
5. น.ส.อินทิรา ฉิวรัมย์ รองประธานศาลอุทธรณ์ไปดำรงตำเเหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลเเรงงานกลาง
6.นายเอื้อน ขุนเเก้ว รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค1 ไปดำรงตำเเหน่ง ผู้พิพากษาศาลฎีกา
7. นายเจริญวิทย์ เกื้อทิพย์ ประธานเเผนกคดียาเสพติดในศาลอุทธรณ์ ไปดำรงตำเเหน่ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค2
ผู้พิพากษาที่ได้รับการขยับตำเเหน่งที่น่าสนใจเช่น นายจีระพัฒน์ พันธุ์ทวี ว่าที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคนใหม่ เคยเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมสมัยนางสาวปิยกุล บุญเพิ่ม เป็นประธานศาลฎีกา มีผลงานช่วยขับเคลื่อนนโยบายประธานศาลฎีกาในการช่วยเหลือประชาชนในส่วนคดีที่ถูกฉ้อโกงและยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้ครอบคลุมถึงการบริโภควิถีใหม่ โดยการตั้งแผนกคดีซื้อขายออนไลน์ในศาลแพ่ง เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย จากการซื้อขายสินค้าบริการทางออนไลน์ ซึ่งประชาชนสามารถยื่นฟ้องได้ด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านระบบ e-Filing ได้รับความไว้วางใจให้ไปนั่งบริหารศาลอาญาซึ่งเป็นศาลหลักและเป็นศาลใหญ่ที่สุดของประเทศ เขตอำนาจครอบคลุมคดีอาญาที่มีอัตราโทษเกิน 3 ปี ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานคร 16 เขต รวมถึงคดีในกองปราบที่มีอำนาจจับกุมได้ทั่วประเทศ และศาลอาญามีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงแต่คดีที่เกิดขึ้นนอกเขตศาลอาญา ที่โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาก็ได้ ซึ่งคดีดังและคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีในต่างจังหวัดก็มีการโอนมาพิจารณาที่ศาลอาญาหลายคดี นอกจากนี้ศาลอาญา มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่ความผิดเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรไทยด้วย เคยผ่านงานบริหารมีประสบการณ์มาก เเละมีความเหมาะสม
นายธนรัตน์ ทั่งทอง ว่าที่ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง เป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และคดีที่กฎหมายกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจ เช่น คดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามป.อาญา ความผิดทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น หรือความผิดอื่นอันเนื่องมาจากการประพฤติมิชอบ, คดีอาญาที่ฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำความผิดฐานฟอกเงิน กฎหมายว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กฎหมายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือกฎหมายอื่นในการป้องกันปราบปรามการทุจริตฯ, คดีเรียก รับ ทรัพย์หรือประโยชน์ ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้อิทธิพล จูงใจหรือข่มขืนใจ ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ หรือไม่กระทำการ ตามกฎหมายอาญา, คดีฟ้องลงโทษบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ, คดีเกี่ยวกับการจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ อันเป็นเท็จ
นายธนรัตน์ถือเป็นผู้พิพากษาที่มีคะเเนนนิยมในหมู่ศาล เคยได้รับเลือกเป็น ก.ต.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยล่าสุดยังได้รับเลือกเป็น กบศ.อีกด้วย
นายธานี สิงหนาท ว่าที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลเเพ่ง ซึ่งเป็นศาลหลักในคดีเเพ่งมีความสำคัญมากเช่นเดียวกับศาลอาญา เนื่องจากมีเขตอำนาจพิเศษที่สามารถรับคดีได้ทั่วราชอาณาจักรต่างจากศาลเเพ่งในเขตอื่นๆ หรืออย่างเช่น ที่มีการตั้งเเผนกคดีซื้อขายออนไลน์ก็สามารถพิจารณารับคดีที่อยู่ในอำนาจศาลเเขวงได้ด้วย เเละมีอำนาจพิจารณาทำคดีฟอกเงิน ตัวนายธานีเองก็เคยได้รับความไว้วางใจให้นั่งตำเเหน่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมซึ่งก็มีฝีมือการบริหารบุคลิกก็เป็นคนใจเย็นมีเมตตา เป็นผู้พิพากษานักวิชาการมีลูกศิษย์ในวงการกฎหมายให้ความเคารพนับถือ แต่งตำรากฎหมายขายดีมีคุณภาพหลายเล่ม เเละเมื่อเคยนั่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเเพ่งกรุงเทพใต้ซึ่งมีอำนาจศาลครอบคลุมพื้นที่ 7 เขตในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ
น.ส.อินทิรา ฉิวรัมย์ ว่าที่อธิบดีศาลเเรงงานกลาง ซึ่งเป็นศาลหลักในคดีเเรงงานของประเทศ ซึ่งตำเเหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลเเรงงานกลางจะระนาบเดียวกับระดับผู้พิพากษาศาลฎีกา มีอำนาจพิจารณาคดีเเรงงานในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเเละเมืองเศรษฐกิจอันดับ1 ของประเทศ ซึ่งจะมีคดีเเรงงานมากกว่าในศาลเเรงงานตามภาคต่างๆซึ่งมีทั้งหมด 9 ภาค รวมถึงบุคลากรที่อยู่ภายใต้สายบังคับบัญชาศาลเเรงงานกลางก็จะมีจำนวนบุคลากรมากกว่าศาลเเรงงานภาค
น.ส.อินทิรา เป็นที่รู้จักในงานบรรยายสายวิชาการ เป็นอาจารย์นักกฎหมายที่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในสายคดีเเรงงานมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สมัยเป็นอธิบดีศาลเเรงงานภาค1 ก็มีผลงานโครงการต่างๆในการอำนวยความยุติธรรม เดินสายลงพื้นที่จัดกิจกรรมอมรมเพิ่มศักยภาพบุคลากรของศาลแรงงานในการบริการประชาชน เป็นเจ้าภาพประชุมสัมมนาผู้พิพากษาสมทบในศาลแรงงานทั่วประเทศ ครั้งที่ 9 เปิดมหกรรมไกล่เกลี่ยทั่วไทยยุติข้อพิพาทแรงงาน สู่กระบวนการยุติธรรมทางเลือก จัดศาลเเรงงานเคลื่อนที่อำนวยความยุติธรรมประชาชน เเละมีประสบการณ์มานั่งเป็นผู้บริหารในตำเเหน่งรองประธานศาลอุทธรณ์ ผ่านหลักสูตรระดับสูง ทั้ง วปอ.55 และ บยส.24 เเละ ปปร.28
ยังมีผลงานริเริ่มจัดหาที่ดินเพื่อจะสร้างศาลเเรงงานภาค 10 (จังหวัดสมุทรปราการ) เเละที่ตั้งของศาลเเรงงานภาค 1 เเห่งใหม่ (ในจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา) ซึ่งทั้ง 2 เเห่งดังกล่าวจะมีการดำเนินการสร้างในอนาคตต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับการประชุม ก.ต.ครั้งต่อไปคาดว่าจะมีการพิจารณาวาระโยกย้ายแต่งตั้งบัญชี 3 ชั้น 4 สับเปลี่ยนตำแหน่งที่เหลือ
สามารถเข้าดูผลการประชุม ก.ต.ครั้งที่ 19/2568 ได้ตามลิงก์
https://ojc.coj.go.th/th/content/category/detail/id/8/cid/14588/iid/502022?ldtag_cl=GGjBAD9TS-aDQ_nl1dNXawAA_oa<_r=mq9_oa