xs
xsm
sm
md
lg

"ทวี" ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี มุ่งบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดปัตตานี มอบนโยบาย โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี นำหลักศาสนาและภาคประชาสังคมแก้ปัญหายาเสพติด

วันนี้ (2 ส.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ประกอบด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม , นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม , นายพลรักษ์ รักษาพล คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุมมอบนโยบาย การบำบัดและการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม ณ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี

โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาค 4 , พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ , ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วรวิทย์ บารู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี เขต 1 พรรคประชาชาติ ร่วมให้การต้อนรับ และมี พญ.นริศรา งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี เป็นผู้กล่าวต้อนรับและกล่าวรายงาน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานีทุกท่าน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการบำบัดและการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม ในเบื้องต้น อยากให้นำการแก้ไขปัญหายาเสพติดในมิติศาสนา และภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาแลกเปลี่ยนในเวทีการประชุมวิชาการ สารเสพติดนานาชาติ 2025 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เชิญนานาชาติมาร่วมประชุม ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

"ทั้งนี้ ยาเสพติด ยาบ้าและสารสังเคราะห์ คือ บทเรียนในอดีตมาสู่นวัตกรรมในอนาคต วันนี้ประเทศไทยเราได้เดินทางผ่านเรื่องยาเสพติดมากว่าสามทศวรรษ วันนี้ภาคใต้ไม่ใช่แค่ปลายทางของยาเสพติด แต่เป็นทางผ่านของยาเสพติดไปสู่ภูมิภาคอื่นด้วย ในช่วงหลังประเทศไทยเราจัดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ และที่ผ่านมา เราเลือกการปราบปรามยาเสพติดว่าคือทางออก และวันนี้ภาคประชาชนได้ตื่นตัวในเรื่องการแก้ปัญหาไขปัญหายาเสพติดมากขึ้น" รมว.ยุติธรรม กล่าว

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ระบุด้วยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงยุติธรรม จะพัฒนากระบวนการป้องกันและแก้ไขปัญหาในหมู่บ้าน และชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้กฏของศาสนาและกฎของหมู่บ้านเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหายาเสพติด ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่และมีผลเป็นที่น่าพอใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี เป็นโรงพยาบาลขนาด 110 เตียง รับผิดชอบครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ภายใต้การเปิดให้บริการทั้งด้านงานบริการ งานวิชาการ และงานสร้างเครือข่ายการดูแลรักษาผู้ติดยาเสพติด โดยในงานบริการ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี เปิดให้บริการทั้งแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD) โดยมีรูปแบบการให้บริการเป็นประเภทคลินิกต่างๆ อาทิ งานบริการบำบัดรักษาผู้ป่วยนอก (OPD) ประกอบด้วย คลินิกโรคทั่วไป , คลินิกผู้ป่วยยาเสพติดทั่วไป งานให้คำปรึกษา , งานคัดกรอง ประเมิน คัดแยกผู้ป่วย , งานบำบัดด้วยการเสริมสร้างแรงจูงใจ , งานให้การบำบัดอย่างย่อ และ งานกาย จิต สังคม บำบัด

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี ยังมี คลินิกผู้ป่วยยาเสพติดเฉพาะโรค , คลินิกบุหรี่ , คลินิกสารระเหย , คลินิกสารกระตุ้น , คลินิกสารกดประสาท , คลินิกสารหลอนประสาท , คลินิกสารออกฤทธิ์ผสมผสาน , คลินิกสุรา นอกจากนี้ ยังมี คลินิกผู้ป่วยยาเสพติดซับซ้อน , คลินิกผู้ป่วยยาเสพติดที่ติดเชื้อแทรกซ้อน , คลินิกลดอันตรายจากการใช้ยา และคลินิกเมทาโดนระยะยาว

งานบริการบำบัดรักษาผู้ป่วยใน (IPD) โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ระยะถอนพิษยา (IPD1) จำนวน 30 เตียง และระยะฟื้นฟูสมรรถภาพ (IPD2) จำนวน 80 เตียง ซึ่งให้บริการงานถอนพิษยา , งานฟื้นฟูสมรรถภาพ แบบ ชุมชนจำลอง ประกอบด้วยกิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์, กิจกรรมนันทนาการ , กิจกรรมทางเลือก/ฝึกอาชีพ , กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ และ กิจกรรมชุมชนและศาสนบำบัด

นอกจากนี้ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี ยังมีงานบริการสังคมและชุมชน ซึ่งมีหน้าที่หลักในการบำบัดรักษาดูแลต่อเนื่องในชุมชน โดยมีกิจกรรมทั้งเยี่ยมบ้าน เฝ้าระวัง ดูแล ติดตาม รวมถึงกิจกรรมค่ายและกิจกรรมเสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยยาเสพติดงาน ตลอดจนงานสร้างเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยยาเสพติด อาทิ งานเยี่ยมบ้าน เฝ้าระวัง ดูแล ติดตาม , ค่ายและกิจกรรมเสริมสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยยาเสพติด , ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยง/กลุ่มเสพยาเสพติด , ค่ายมัสยิดศูนย์ส่องทางชีวิตใหม่ รวมถึง งานสร้างเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยยาเสพติดเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง

รัฐบาล ต้องการให้โรงพยาบาลธัญญารักษ์ปัตตานี มุ่งสู่ความเป็นเลิศเป็น "ศูนย์การเรียนรู้ด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาและสารเสพติดในเขตบริการที่ 12 โดยวางแผนยุทธศาสตร์จากการรวบรวมข้อมูลด้านยาเสพติดอย่างเป็นระบบ จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์โรค เพื่อให้สามารถมองปัญหาของพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งจากข้อมูลการระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส พบว่ามีการแพร่ระบาดของกัญชา ยาบ้า เฮโรอีน กระท่อม และสารระเหยตามลำดับ หากแต่จากการวิเคราะห์โรคถึงแม้กัญชาและยาบ้าจะมีการแพร่ระบาดในอัตราที่สูง แต่ผลกระทบและอาการรุนแรงจากการขาดยามีน้อย อีกทั้งปัจจุบันยังมีรูปแบบการบำบัดรักษาทีมีมาตรฐาน ขณะที่เฮโรอีนซึ่งนอกจากมีการระบาดในพื้นที่แล้ว อาการรุนแรงจากการขาดยายังมีสูง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยประเภทนี้มักมีโรคร่วม เช่น เอดส์ วัณโรค เป็นต้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ และเศรษฐกิจอีกด้วย ดังนั้น ผู้ป่วยเฮโรอีนจึงถือเป็นปัญหาที่สำคัญของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น