MGR Online - กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ ส่งสำนวนเสนออัยการสั่งฟ้องแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติสร้างเว็บปลอมหลอกขายสินค้าผู้เสียหายกว่า 24 ประเทศ
วันนี้ (30 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนคดีพิเศษที่ 118/2566 คดีขบวนการสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่สร้างเว็บไซต์หลอกลวงจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่มีอยู่จริงมากกว่า 2,000 เว็บไซต์ โดยแอบอ้างว่าเป็นธุรกิจของชาวไทย สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจรวมกว่า 2,000 ล้านบาท ให้กับพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนวนคดีประกอบด้วย 91 แฟ้ม รวม 30,776 แผ่น โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 13 ราย เป็นคนไทย 10 ราย และชาวต่างชาติ 3 ราย (ชาวแคเมอรูน 2 ราย และชาวไนจีเรีย 1 ราย) จากผู้ต้องหาทั้งหมด 24 ราย
คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 24 ราย ในข้อหากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ , ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน"
ทั้งนี้ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้สืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิด โดยพบว่ามีการใช้บัญชีม้า ซึ่งได้มาจากการหลอกลวงชาวบ้านให้เปิดบัญชี และถอนเงินสดสร้างความเสียหาย รวมกว่า 250 ล้านบาท และยังพบผู้เสียหายกว่า 24 ประเทศทั่วโลก ที่ตกเป็นเหยื่อการโอนเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว ได้แก่ ตรินิแดดและโตเบโก , เดนมาร์ก , ตุรกี , จีน , ญี่ปุ่น , โปแลนด์ , โปรตุเกส , ฝรั่งเศส , ฟิลิปปินส์ , มาเลเซีย , โมร็อกโก , อังกฤษ , แคนาดา , ซาอุดิอาระเบีย , ศรีลังกา , สิงคโปร์ , แอฟริกาใต้ , อเมริกา , อินเดีย , เคนยา , ไต้หวัน , เวียดนาม , ฮ่องกง , บัลแกเรีย และแซมเบีย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินหน้าจับกุมตัวผู้กระทำผิดและขยายผลสู่เครือข่ายนายทุน โดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้กำชับให้คณะพนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลอย่างเข้มข้น เพื่อติดตามผู้ต้องหาที่หลบหนี รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการทำงานเชิงบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมยึดหลักความถูกต้อง โปร่งใส และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและแจ้งเบาะแสโดยในขั้นตอนต่อไป กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ จะมีการเชิญเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศเข้าร่วมประชุมหารือ และประสานความร่วมมือด้านการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิด รวมถึง การยืนยันตัวผู้เสียหายจากในแต่ละประเทศเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการทางกฎหมายให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด