xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งไต่สวนปม"ทักษิณ" ป่วยรักษาตัวชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายวิญญัติ ชาติมนตรีให้นายวิษณุ เครืองามมาเบิกความเป็นพยาน
ศาลฎีกานักการเมืองไต่สวนปม"ทักษิณ"ป่วยรักษาตัวชั้น 14 นัดสุดท้าย เรียก"วิษณุ"ขึ้นเบิกความ ด้านทนายวิญญัติ มั่นใจความจริงทุกอย่างจะปรากฎ ภายหลังไต่สวนเสร็จแล้ว จึงนัดฟังคำสั่ง 9 ก.ย.นี้ โดยเรียก"ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ - ทักษิณ"มาฟังด้วย

เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (30 ก.ค.) ที่ศาลฏีกา สนามหลวง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 7 (นัดสุดท้าย) ก่อนหน้านี้ศาลได้นัดไต่สวนนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กลุ่มแพทย์ประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 5 ปาก และกลุ่มพัศดีเวรประจำวัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ แพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากแพทยสภา

โดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยาน จำเลย 1 ปาก คือศ.ดร.วิษณุ เครืองาม ขึ้นเบิกความในเวลา 09.30 น.

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ เปิดเผยว่า การไต่สวนนัดสุดท้ายไม่หนักใจ เชื่อว่า ศาลจะดูข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่สุดท้ายก็อยู่ที่มุมมอง ส่วนตนได้ย้ำกับสังคมหลายครั้งว่า ไม่มีใครปรารถนาที่จะเป็นคนป่วย แต่เมื่อเป็นแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วย ไม่ว่าเป็นแพทย์หรือหน่วยงานใดก็ตาม ที่คุ้มครองดูแลก็ต้องดำเนินการให้ดีที่สุด ศาลก็เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ต้องให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และการเข้าถึงการรักษาพยาบาล เชื่อว่า อีกไม่นานก็จะได้รู้ความจริงหลังจากศาลไต่สวนเสร็จ และก็จะทำให้เกิดความชัดเจนในเรื่องที่หลายคนสงสัย

เมื่อถามว่ามีอะไรที่เป็นน้ำหนักมากพอให้กับตัวนายทักษิณชนะคดีนี้

นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ใช่เรื่องการชนะคดีหรือไม่ แต่ตนมองเรื่องที่จะทำให้ประเด็นนี้มีความชัดเจนมากขึ้นมากกว่าคือเรื่องอาการป่วยของนายทักษิณ ส่วนจะเป็นหลักฐานส่วนใดนั้นตนไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าศาลให้น้ำหนักเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งศาลก็ทำหน้าที่คือการทำให้ความจริงทุกอย่างของเรื่องนี้ปรากฎออกมา ส่วนเรื่องที่บางกลุ่มออกมาตั้งข้อสังเกต จับผิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ตนไม่หนักใจอะไรเพราะสังคมประเทศไทยเป็นสังคมประชาธิปไตย แสดงความคิดเห็นต่างกันได้อยู่แล้ว

นานวิญญัติ กล่าวต่อว่า ศ.ดร.วิษณุถือเป็นพยานปากสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ความชัดเจนในหลายเรื่อง เพราะในขณะนั้นศ.ดร. วิษณุเป็นรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จึงรู้ข้อเท็จจริงกระบวนการทุกขั้นตอน จึงเข้าไปกราบเรียนขอความกรุณาว่า จะเข้ามาให้ข้อเท็จจริงกับศาลได้หรือไม่ เนื่องจากพยานจำเลยอื่นที่มีการยื่นกับศาลไป เป็นพยานบุคคลซ้ำกับที่ศาลนั้นเรียกมาไต่สวนแล้ว แต่ศ.ดร.วิษณุศาลยังไม่ได้เรียกมาไต่สวน ดังนั้นภายหลังการพูดคุย ศ.ดร.วิษณุก็เมตตาจมาเป็นพยานให้

นายทักษิณ ชินวัตร
ภายหลังการไต่สวนพยานปากสุดท้ายเสร็จแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่งคดีนี้ในวันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. ทัเงนี้ศาลได้ออกหมายเรียกนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครคนปัจจุบันและนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย มาฟังคำสั่งด้วย

จากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการไต่สวนว่า ในวันนี้เป็นการไต่สวนที่ทำให้มีความสมบูรณ์ในหลายส่วนมากขึ้น จากการไต่สวนช่วงแรกที่เป็นหน่วยงานราชการและแพทยสภา ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องที่ตัวแทนจากแพทยสภาไม่ใช่ผู้ที่ทำการรักษาตัวนายทักษิณโดยตรง ดุลยพินิจต่าง ๆ จึงเป็นไปตามข้อบังคับของแพทย์อยู่แล้ว ซึ่งในวันนี้การที่ศาลออกหมายเรียก ศ.ดร.วิษณุ เครืองามเข้ามาไต่สวนจึงได้ความชัดเจนถึงกระบวนการเตรียมการหลังจากการกลับมาจากต่างประเทศของนายทักษิณ เนื่องจากเป็นบุคคลสำคัญซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ศ.ดร.วิษณุ ก็ยังยืนยันว่าไม่มีการเตรียมการที่จะส่งตัวนายทักษิณออกไปรักษาภายนอกอยู่แล้วแต่การที่ส่งตัวออกไปเป็นเรื่องกระทันหันจึงต้องส่งตัวออกไปรักษายังโรงพยาภายนอก แม้นายทักษิณจะเลือกรักษายังโรงพยาบาลเอกชนแต่ก็ไม่สามารถทำได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า การไต่สวนพยานของจำเลยมีทั้งหมดกี่ปาก นายวิญญัติ กล่าวว่า ในตอนแรกตนและทีมทนายความได้เตรียมพยานไว้ทั้งหมดหลายปาก แต่ก็คัดจนเหลือ 3 ปาก ซึ่ง 2 ใน 3 เป็นพยานที่ศาลต้องออกหมายเรียกแล้วคืออดีตแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจและแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจคนปัจจุบัน จึงเหลือพยานแค่ 1 ปากคือศ.ดร.วิษณุที่เข้ามาเบิกความในวันนี้

เมื่อถามว่าการนำศ.ดร.วิษณุ เข้ามาเบิกความในวันนี้จะทำให้คดีมีผลดีขึ้นหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็นเพราะไม่อยากไปก้าวล่วงดุลยพินิจของศาล

เมื่อถามว่าการออกหมายเรียกผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเข้ามาฟังคำสั่งวันที่ 9 ก.ย.มีนัยยะอะไรสำคัญหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่มีนัยยะสำคัญอะไรแน่นอน เพราะเป็นเรื่องกระบวนการไต่สวนบังคับโทษอยู่แล้วคือกรมราชทัณฑ์ ซึ่งผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ศาลจึงออกหมายเรียกเพื่อให้เข้ามาฟังคำสั่งศาล

ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้มีปรากฎการณ์อะไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตบ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตุว่า การไต่สวนการบังคับโทษแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์มาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนในสังคมจะต้องจับตามองการฟังคำสั่ง และตนมองว่าต้องมาดูกันอีกครั้ง และตนและทีมทนายความก็ได้ยื่นหลักฐานความจริงไปต่อศาลทั้งหมดแล้ว

ด้านนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการไต่สวนพยานจำเลยนัดสุดท้าย มีเรื่องที่ศาลสนใจคือเรื่องกฎหมายว่ากรมราชทัณฑ์ดำเนินการอย่างไรบ้างเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งนายวิษณุ เครืองามพยานจำเลยเบิกความประเด็นที่มีการปรึกษาหารือในการรับตัวนายทักษิณกลับมารับโทษที่เมืองไทย กับปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าถ้าหากนายทักษิณมีอาการป่วยจะต้องดูแลอย่างไร ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตุว่านายทักษิณเป็นจำเลยในคดีทุจริต แต่กลับดูแลแบบนักโทษพิเศษเหมือนเป็นบุคคลสำคัญได้อย่างไร ที่ผ่านมาศาลได้ให้โอกาสให้ทุกฝ่ายชี้แจงข้อเท็จจริง คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างคดีประวัติศาสตร์ ซึ่งนายวิษณุเบิกความเสร็จแล้ว ทั้งหมดจะเป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งนัดฟังคำสั่ง 9.ก.ย.นี้. หลังจากนั้นตนจะตรวจสอบประเด็นที่ตนได้ร้องต่อศาล 1.ป่วยจริงหรือไม่ 2.มีใครเกี่ยวข้องบ้าง 3.คำให้การทั้งหมดมีข้อเท็จจริงอย่างไร ขณะที่วันนัดฟังคำสั่งศาลให้นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยมาฟังคำสั่งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น