ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ยกฟ้องคดี “พิธา” ฟ้อง “หมอวรงค์” ข้อหาหมิ่นประมาท กรณีไลฟ์สดวิจารณ์พรรคก้าวไกลจาบจ้วงเบื้องสูงช่วงสถานการณ์โควิด-19 ชี้ จำเลยแสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวดีใจ ไม่ต้องจ่ายเงิน 24,062,475 บาท ตามที่โจทก์เรียกร้อง
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (14 ก.ค.) ห้องพิจารณา 608 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์หมายเลขดำ อ 307/2564 ที่พรรคก้าวไกล เป็นโจทก์ฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 เรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท
โจทก์ฟ้องระบุว่า เมื่อระหว่างวันที่ 20 ม.ค. 2564 และวันที่ 3 ก.พ. 2564 นพ.วรงค์ จำเลยได้กล่าวในเฟซบุ๊กชื่อ “Warong Decgitvigrom” ไลฟ์สดในการแถลงข่าวการจัดตั้งพรรคไทยภักดี ว่า ปัญหาของประเทศขณะนี้มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีจงใจ จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่สถานการณ์ล่าสุดในช่วงการระบาดโควิด โดยเฉพาะเรื่องการจัดตั้งโรงงานวัคซีน กลุ่มผู้ไม่หวังดีพยายามโยงใยทำลายความน่าเชื่อถือ ซึ่งมีทั้งกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประชาชนปลดแอก กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มราษฎร กลุ่มนักเรียนเลว ร่วมมือกัน โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ปรึกษาคณะก้าวหน้า เป็นผู้สนับสนุน โดยมีความร่วมมือกับม็อบ 3 กีบ คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล และข้อความอื่นซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
คดีนี้ศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้ว เห็นว่า ฟ้องโจทก์มีมูลให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2566 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงการชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อช่วงปี 2563-2564 ปรากฏว่า มีสมาชิกพรรคโจทก์ไปร่วมด้วย ขณะที่เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2563 หลังการชุมนุมของนักศึกษาแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นั้น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง 10 ประการ ต่อสถาบันเบื้องสูง ว่าไม่เท่ากับการก้าวล่วง จะต้องสามารถแสดงความคิดเห็นกันได้ อาจทำให้ประชาชนทั่วไปคิดไปได้ว่าโจทก์มีแนวคิดที่สอดคล้องกับบุคคลที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์
ดังนั้น การแสดงความเห็นของจำเลยทั้งสองครั้ง เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น สะท้อนความคิดที่อาจจะกระทบกระเทือนต่อสถาบันฯ ไปยังประชาชน อันเป็นการติชมโดยสุจริตที่วิญญูชนถึงกระทำได้ เป็นการทำหน้าที่ในฐานะพลเมืองไทยตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา และไม่มีความผิดละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่ง ไม่ต้องชดใช้เงินจำนวน 24,062,475 บาท
ในช่วงเช้าวันนี้ นพ.วรงค์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมทนายความตามนัด
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันแล้ว เห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา พิพากษายืนยกฟ้อง
ภายหลัง นพ.วรงค์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟ้องหมิ่นประมาทพร้อมเรียกค่าเสียหาย 24,062,475 บาท และขอบคุณที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องตามศาลชั้นต้น โดยวินิจฉัยว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นไปตามข้อเท็จจริงและเป็นไปตามกฎหมาย