xs
xsm
sm
md
lg

“กุสุมาลวตี” อดีต สส.เพื่อไทย ปัดเจรจาคดี “พรรคภูมิใจไทย” ฟ้องหมิ่นประมาท กล่าวหาเรื่องฮั้วเลือก สว.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“กุสุมาลวตี” อดีต สส.เพื่อไทย เข้าฟังไต่สวนคดี “พรรคภูมิใจไทย” ฟ้องหมิ่นประมาทกล่าวหาเรื่องฮั้วเลือก สว. ปัดไกล่เกลี่ย ขอให้ศาลอาญาประทับฟ้อง แม้ “อนุทิน-พรรคภูมิใจไทย” ขอเจรจา

วันนี้ (14 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคดีที่ พรรคภูมิใจไทย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่ นางกุสุมาลวตี กล่าวหาว่า นายอนุทิน เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และประเด็นพื้นที่เขากระโดง

โดยในวันนี้ นางกุสุมาลวตี เดินทางเข้ามาฟังการไต่สวนด้วย โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าในวันนี้ต้องการเข้ามาเพื่อเผชิญหน้ากับนายอนุทินโดยตรง

นางกุสุมาลวตี ให้สัมภาษณ์ว่า นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาเพื่อฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีที่ตนกล่าวถึงว่า นายอนุทิน และพรรคเกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือก สว. เรื่องที่ดินเขากระโดง และการที่ตนยื่นคำร้องขอให้ยุบพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นการทำหน้าที่พลเมืองของตนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนมองว่า การที่คนทำผิดแล้วฟ้องคนทำถูกอย่างตนมันถูกต้องหรือไม่ ในครั้งนั้นที่ตนฟ้องไปเพราะเห็นการกระทำที่อุกอาจไม่เคารพกติกา โดยการฮั้วเลือกตั้ง สว.ในช่วงที่ตนร้องไปช่วงต้นนั้น ความจริงยังไม่ปรากฏ จนกระทั่งวันนี้บุคคลจำนวนกว่า 220 คน ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกตั้ง สว. ก็ถูกคณะอนุกรรมการพิจารณาความผิดเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะส่งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งที่ผ่านมาเป็นบุคคลในพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือกตั้ง สว. ตนจึงอยากถามไปว่าการที่ตนออกมาร้องในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เป็นเรื่องที่ผิดหรือไม่

นางกุสุมาลวตี กล่าวอีกว่า ในวันนี้หาก นายอนุทิน อยากที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งตนอยากถามไปว่า มีความเหมาะสมในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม มากน้อยแค่ไหนที่จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนี้ ถ้าประเทศไทยได้คนแบบนี้ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีจริงๆ ตนก็รู้สึกสงสารประเทศไทยและประชาชนเป็นอย่างมากว่า ถ้าหากเรายังมีนักการเมืองที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์และไม่ได้มองประชาชนเป็นที่ตั้ง ในวันนี้ในฐานะที่ตนก็ถือว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งจึงไม่อยากให้สิ่งแบบนั้นต้องเกิดขึ้น และตอนที่ตนไปร้องขอความเป็นธรรมกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับประเด็นที่ตนถูกนายอำเภอเข้ามาเอาเอกสาร แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีการฟ้องร้องกันแบบนี้ แต่ทางนายอนุทินได้กล่าวหาตนเองในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง อีกทั้งยังกล่าวหาว่าตนเองเป็นคนกักขฬะ จนวันนี้สิ่งที่ฝ่ายนั้นได้ทำและสิ่งที่ตนร้องเป็นข้อเท็จจริง วันนี้ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ อัยการ และคณะกรรมการการเลือกตั้งก็ได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วว่าเป็นอย่างไร ตนจึงสงสัยว่าพรรคภูมิใจไทยและนายอนุทินจะฟ้องร้องตนเรื่องอะไรกันแน่

นางกุสุมาลวตี กล่าวอีกว่า ตนมองว่า ในวันนี้พรรคการเมืองเต็มไปด้วยนายทุนและการแสวงหาผลประโยชน์ ธุรกิจการเมืองต่างๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปประชาชนจะอยู่กันอย่างไร

เมื่อถามว่า คดีในวันนี้เป็นคดีฝ่ายไหนเป็นคนยื่นฟ้อง นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า เป็นคดีที่ทางฝ่ายพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายฟ้องตน โดนคดีที่ศาลนี้มีทั้งคดีมี่ตนเป็นผู้ฟ้องหมิ่นประมาทก่อนด้วย แต่คดีนั้นศาลนัดไต่สวนในวันที่ 21 ก.ค. แต่ทางพรรคภูมิใจไทยยื่นฟ้องตนทีหลังปรากฎว่าศาลนัดไต่สวนก่อน โดยคดีที่ตนเป็นฝ่ายยื่นฟ้องยืนยันว่ามีหลักฐานต่างๆ เข้ามาแสดงแน่นอนว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนในคดีที่พรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายฟ้องตนนั้นตนก็ไม่กังวลเพราะมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทางพรรคภูมิใจไทยทำอะไรผิดไว้บ้าง

เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ที่ต่างฝ่ายต่างยื่นฟ้องกัน จะมีโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะไกล่เกลี่ยกันไหม นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า ตนมองว่าอาจจะมีการไกล่เกลี่ยกัน เพราะในอดีตตนเคยมีประเด็นฟ้องร้องกับ นายวีระ สมความคิด และภายหลังก็ได้มีการไกล่เกลี่ยกัน แต่ในคดีนี้สำหรับตนยืนยันว่าไม่มีการไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน และตนยังยืนยันว่าการยื่นฟ้องในครั้งนี้ไม่มีใครหรือพรรคการเมืองไหนอยู่เบื้องหลังตนอย่างแน่นอน เป็นการที่ตนทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญไทยเท่านั้น

เมื่อถามว่า ในวันนี้ทำไมถึงนำรูปในอดีตที่เคยถ่ายคู่กับนายอนุทินเข้ามาด้วย เป็นเพราะอะไร นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า รูปดังกล่าวเป็นการถ่ายตอนที่ตนเข้าไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อเข้าไปขอบคุณผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในขณะที่ตนเองกำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตนได้พบเจอกับรัฐมนตรีช่วยว่าการคนหนึ่ง จนนายอนุทินเดินผ่านมา จึงได้พากันเข้าไปทักทาย ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าจะต้องมีวันที่ตนกับนายอนุทินถึงขั้นที่จะต้องฟ้องร้องกันในชั้นศาล และตนยืนยันว่า การพบกันในวันนั้นไม่ได้มีการขออะไรจากนายอนุทินเลย การนำภาพมาในวันนี้เพื่อเป็นการเตือนความจำของตนเอง และขอยืนยันว่า นายอนุทินไม่ควรขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยด้วย ตนไม่อยากให้ประชาชนสนับสนุนเจ้าตัวเป็นนายกฯ รวมถึงไม่อยากให้พรรคประชาชนไปจับมือด้วย เพราะว่ามีพฤติกรรมหลายอย่างที่ไร้จริยธรรม และคุณธรรม

ภายหลังการไต่สวนเสร็จแล้ว เวลาประมาณ 11.30 น. โดยในวันนี้ไม่พบว่านายอนุทินเดินทางมาฟังการไต่สวนแต่อย่างใด โดยเป็นทนายความของนายอนุทินเข้ามาฟังและพยานฝ่ายโจทก์ที่นำมาเบิกความเท่านั้น โดยศาลได้เลื่อนการไต่สวนเป็น 18 ส.ค. เวลา 09.00 น.

นางกุสุมาลวตี เปิดเผยว่า ตนมาตามที่ศาลนัด แต่ฝ่ายโจทก์ คือ พรรคภูมิใจไทย โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย ไม่มา มีเพียงทนายความมาศาล ซึ่งทนายความโจทก์ได้แจ้งความประสงค์ขอไกล่เกลี่ย แต่ตนเองปฏิเสธไม่ไกล่เกลี่ย เนื่องจากต้องการให้ข้อเท็จจริงประจักษ์ออกมา รวมถึงคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ก็ได้สรุปออกมาแล้วก็แสดงว่าสิ่งที่ตนเองได้ร้องยุบพรรคภูมิใจไทยนั้นมีมูลมีความเป็นไปได้

ด้าน นายชาติอาทิตย์ ทัณฑะรักษ์ ทนายความนางกุสุมาลวตี กล่าวว่า กระบวนการในศาลวันนี้ โจทก์เป็นฝ่ายที่นำพยานหลักฐานเข้ามาแสดงต่อศาลว่าพยานหลักฐานต่างๆ เป็นอย่างไร ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ทั้งคู่ถือว่าเป็นราษฎรฟ้องกันเอง ศาลจึงได้ให้แนวทางการไกล่เกลี่ยมา ซึ่งในวันนี้ทางทนายของฝ่ายโจทก์คือพรรคภูมิใจไทยก็ประสงค์ที่จะไกล่เกลี่ยด้วย แต่ทางนางกุสุมาลวตีไม่ประสงค์ที่จะไกล่เกลี่ยด้วย เพราะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ถึงแม้ว่าจะเป็นราษฎรฟ้องกันเอง แต่ผลที่เกิดขึ้นเป็นผลที่แสดงให้เห็นภาพสะท้อนทางการเมืองที่หลายฝ่ายจับตามอง จึงอยากให้มีการชี้ขาดเลยว่าการกระทำที่นางกุสุมาลวตีทำไปนั้นเป็นความจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายพรรคการเมืองหรือว่าหมิ่นประมาทอย่างแน่นอน

นายชาติอาทิตย์ กล่าวอีกว่า จริงๆ ในวันนี้พรรคภูมิใจไทยต้องนำพยานที่เกี่ยวข้องกับพรรคและพยานหลักฐานที่ควรนำเสนอเช่นหลักฐานที่นางกุสุมาลวตีเข้าไปแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ามาเบิกความ แต่ปรากฏว่า ยังไม่มีหมายเรียกมา ศาลจึงมองว่าจะเบิกความ ทั้งๆ ที่เอกสารยังไม่ครบแต่จะนำพยานหลักฐานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงมาเบิกความ ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนไปก่อนเป็นวันที่ 18 ส.ค. เพื่อให้นำพยานหลักฐานที่ครบถ้วนเข้ามาเบิกความทีเดียว

เมื่อถามว่า ทำไมฝ่ายพรรคภูมิใจไทยที่เป็นโจทก์จึงเป็นฝ่ายขอไกล่เกลี่ย

นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า ตนคิดว่า พรรคภูมิใจไทยมีพยานหลักฐานที่ผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ผู้ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกตั้ง สว.ถูกออกหมายเรียกก่อนหน้านี้ ซึ่งเข้าเนื้อพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น ตนจึงมองว่าฝ่ายนั้นน่าจะมองว่าโอกาสที่จะชนะคดีมีน้อยลงจึงให้ทนายขอไกล่เกลี่ย แต่ตนยืนยันไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าจะไม่มีการไกล่เกลี่ยหรือว่ายอมความอย่างแน่นอน เพราะไกล่เกลี่ย ฝ่ายนั้นเป็นโจทก์ ตนเป็นจำเลย ไกล่เกลี่ยแล้วก็จบ ตนจึงต้องการให้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ปรากฎออกมา และตนจะสามารถใช้อำนาจศาลขอเอกสารต่างๆ ที่อยู่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง และองค์กรอิสระอื่นๆ มาแสดงต่อศาลเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น