รอง ผบช.ก. เรียกประชุมทีมคลี่ปม "ทิดอาชว์-สีกากอล์ฟ" แบ่งงานสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยสีกาสำนึกผิดยอมร่วมมือกับตำรวจ รับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย จ่อโดนคดีกรรโชกทรัพย์
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่ บก.ปปป. เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. เรียกประชุมคณะทำงานกรณี "ทิดอาชว์ - สีกากอล์ฟ"
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวภายหลังประชุมโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงว่าวันนี้เป็นการเรียกประชุมมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวน สีกากอล์ฟและได้ข้อมูลมามากพอสมควร ส่วนเส้นเงินนั้นมีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจ ปปป.ได้ทำงานควบคู่ไปกับสำนักพุทธศาสนา ในการเอาผิดทางอาญาและวินัยสงฆ์ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลใดจะมีความผิดบ้าง จึงต้องหาข้อมูลรายละเอียดหลักฐานมาเพิ่มเพื่อให้มีความชัดเจนที่มากขึ้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีหลักฐานและข้อมูลที่ตรงกับคำให้การของ สีกากอล์ฟ ทำให้รูปคดีมีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก ทำให้รู้ว่าสีกากอล์ฟ เลือกเหยื่อยังไง มีใครบ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และนำเงินจำนวนมากไปใช้ทำอะไร ต้องขอเวลาให้ทางพนักงานสอบสวนทำงานเสียก่อน ซึ่งจากการสอบปากคำสีกากอล์ฟเจ้าตัวยินดีที่จะให้ข้อมูลในทุกด้าน โดยเจ้าตัวอ้างว่าสำนึกผิด พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า นางสาวกอล์ฟเลือกเหยื่อเฉพาะคนที่มีเงินและเข้าหาได้ง่าย ใครให้เงินก็เลือกคนนั้น จากนั้นจะหาวิธีใกล้ชิด ก่อนแอบถ่ายภาพและคลิปวิดีโอลับ ก่อนส่งไปทางแอปพลิเคชันไลน์เพื่อข่มขู่รีดไถเงินเหยื่อ อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ ถึงแม้จะยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี แต่ดูจากแผนประทุษกรรมของ สีกากอล์ฟ เข้าข่ายเป็นการกรรโชกทรัพย์ สามารถดำเนินการเอาผิดได้อย่างแน่นอน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าส่วนกรณีที่ทาง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ เข้าไปหาหลักฐานเพิ่มเติมกับ สีกากอล์ฟที่บ้านพักย่านนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น เพื่อที่จะดำเนินการเอาผิดในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ ไม่เกี่ยวของกับทาง บก.ปปป.แต่อย่างใด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันวงการพระสงฆ์ได้เสื่อมเสียไปมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขอให้ทางสำนักพุทธฯ เองต้องทำงานมากกว่านี้ เมื่อเห็นพระที่กระทำความผิด อย่าปล่อยปละละเลย ไม่งั้นคดีไม่จบและมีคดีอื่น ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ รวมไปถึงทำให้ประชาชนคนไทยหมดศรัทธากับพระสงฆ์ นอกจากนี้ จะขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนเรื่องลูกของ สีกากอล์ฟ ขออย่าดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้เพราะตัวเด็กไม่รู้เรื่อง และการที่สื่อฯ ไปขุดคุ้ยอาจทำให้เด็กเสียอนาคต โดยเฉพาะสภาพจิตใจของตัวเด็กเอง ส่วนพระที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสีกากอล์ฟนั้น ก็ขอให้ตัวท่านเองดำเนินการลาสิกขาได้เลย เพราะเรื่องดังกล่าว ผิดทางวินัยสงฆ์ยังไงก็ต้อง ลาสิกขาจากความเป็นพระอยู่ดี ถือว่าเป็นการทำบุญไปอีกทางหนึ่ง