"ฟิล์ม-รัฐภูมิ"ไกล่เกลี่ย"ดีเจแมน"หมิ่นประมาทสำเร็จ ยอมถอนฟ้องคดีให้ ระบุต่างกอด-ปรับความเข้าใจกัน ย้ำความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ด้าน"ดีเจแมน"เผยจบเฉพาะคดีนี้ส่วนคดีที่กองปราบว่ากันตามกระบวนการ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (2 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ความคืบหน้าคดีนัดไกล่เกลี่ย คดีที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม อดีตนักร้องและนักแสดงชื่อดัง เป็นโจทก์ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลย ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D
ในช่วงเช้าวันนี้ นายรัฐภูมิ และนายพัฒนพล พร้อมทนายความเดินทางมาศาลเพื่อพูดคุย กันที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย ชั้น 7 ศาลอาญา โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง
ล่าสุดปรากฎทั้งสองฝ่ายสามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้สำเร็จ
ภายหลังนายรัฐภูมิ หรือ ฟิล์ม ได้ลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันได้และเป็นไปได้ด้วยดี ให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยวันนี้จึงได้ถอนฟ้องคดีเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าสิ่งที่นายพัฒนพลหรือดีเจแมนพูดไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่
นายรัฐภูมิ หรือ ฟิล์ม กล่าวว่า อยากให้รอถามเจ้าตัวดีกว่า แต่ตนตั้งธงมาแล้วว่า หากวันนี้คุยกันได้ก็พร้อมให้อภัยกันทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องเขาไม่ได้มีเจตนาอะไร เพียงแค่อยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้เป็นแบบที่เขาพูด ไม่เคยไปตบทรัพย์และทำสิ่งไม่ดี โดยวันนี้ได้อธิบายให้เขาฟัง พอเขาได้ฟังเขาก็ยินดีและก็ให้อภัยกันทุกเรื่อง
เมื่อถามว่า การไกล่เกลี่ยวันนี้ นายพัฒนพล หรือดีเจแมน ได้กล่าวขอโทษหรือไม่
นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม ตนขอไม่ตอบในส่วนนี้แต่เรียกว่าให้อภัยกันดีกว่า เพราะสำหรับครอบครัวของดีเจแมน ตนเองก็ผูกพันกันมานาน มีแต่ตนที่คอยช่วยเหลือ พูดมาตั้งแต่วันแรกไม่มีเลยที่จะไปทำร้ายครอบครัวนี้ มันเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าไปทำร้ายเขาได้ยังไง แต่พอปรับความเข้าใจกันแล้วทุกอย่างก็แฮปปี้
นายรัฐภูมิ หรือ ฟิล์ม กล่าวอีกว่า ตนได้บอกทุกคนตั้งแต่วันแรกแล้วว่าไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใครเลยและเราโดนกระทำขนาดนี้ แต่ตนไม่คิดอะไรและพร้อมให้อภัยทุกอย่าง
เมื่อถามว่า ยังต้องการคำขอโทษอยู่หรือไม่นายรัฐภูมิ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เรื่องนี้มันจบไปแล้ว
เมื่อถามว่าตอนนี้ยังสามารถเป็นเพื่อนกับดีเจแมน ได้หรือไม่ นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม กล่าวว่า ก็โอเค เมื่อกี้กอดกัน และตนก็ผูกพันกับครอบครัวนี้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การไกล่เกลี่ยสำเร็จในวันนี้ มีไม้เด็ดอะไรหรือไม่
นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม กล่าวว่า "ความจริง" และใช้การพูดคุยในการปรับความเข้าใจเรื่องทุกอย่างก็จบ และได้ถอนฟ้องคดี ซึ่งน่าจะทำให้น.ส.สุธีวัน หรือใบเตยสบายใจ ส่วนคดีที่นายพัฒนพล หรือดีเจแมน แจ้งความไว้ที่กองปราบนั้น ก็ไม่มีอะไร ก็แล้วแต่ดีเจแมนว่าจะถอนแจ้งความหรือไม่ ขอให้รอฟังจากปากดีเจแมนแล้วกัน
เมื่อถามว่าในการไกล่เกลี่ยได้มีข้อตกลงเพิ่มเติมอะไรหรือไม่นายรัฐภูมิ กล่าวว่า มันไม่ได้มีอะไรขนาดนั้น ก็พูดคุยกันไป เมื่อทุกอย่างลงตัว เขาคงไม่รู้จะพูดอะไร และไม่รู้จะพูดถึงกันอีกทำไมเพราะทุกอย่างมันแฮปปี้แล้ว
นายรัฐภูมิ หรือฟิล์ม กล่าวด้วยว่า สำหรับทุกคนที่เชื่อมั่นในตัวตน เขาก็เชื่อมันในทุกข่าว ทุกคดีที่เกิดขึ้นมาส่วนเรื่องที่ใครจะเข้าใจผิดตนก็ไม่ได้ไปสนใจ หรือยืนยันอะไรอีก เพราะสำหรับตนนั้นภาพในวันนี้มันชัด ทุกอย่างเงียบหมดมันเลยน่าจะเป็นการตอกย้ำอะไรบางอย่าง และตนอยากบอกทุกคนว่าขอบคุณมาที่เชื่อมั่น "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว" มันเลยทำให้ตนผ่านมาได้ทุกเรื่อง และใครที่พูดไม่ดีกับเรา ถ้าเราเชื่อในตนเอง มันก็จะทำให้เราผ่านไปได้ และตนก็ไม่ทราบว่าสำหรับคนที่เข้าใจผิดไปแล้ว จะมองเราเปลี่ยนไปหรือไม่แต่ก็อยากให้เห็นใจว่า "มองดีดี เราคือผู้ที่ถูกกระทำ"
หลังจากนั้น นายพัฒนพล ได้ลงมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมความกันได้ ทำให้คดีที่นายรัฐภูมิกล่าวหาว่าตนหมิ่นประมาทสิ้นสุดลง แต่เฉพาะคดีนี้ ส่วนอีกคดีที่ตนแจ้งความนายรัฐภูมิ ไว้ที่กองปราบปรามยังคงอยู่เหมือนเดิม ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างรอพนักงานสอบสวนเรียกไปให้ปากคำ
นายพัฒนพล หรือ ดีเจแมน กล่าวอีกว่า ตนมาการไกล่เกลี่ยคดีนี้เท่านั้น ซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ ส่วนที่ตนเองเคยพูดไว้ก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับนายรัฐภูมิ ถือว่าห่างกันอยู่ และไม่ได้สนิทกัน การที่ทั้งตนและนายรัฐภูมิต่างคนต่างอยู่ถือว่าเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย คดีไหนที่จบได้ตนก็อยากจะให้จบไป เพราะเคยผ่านประสบการณ์ต่างๆมาเยอะ และขึ้นศาลมาแล้ว หลังจากนี้ตนจะโฟกัสเกี่ยวกับการเลี้ยงดูครอบครัวและเป็นพ่อที่ดีของลูก ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างการก่อร่างสร้างตัวให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้นภายหลังจากที่ตนออกมาจากเรือนจำ และจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
ด้านนายอมร ทนายความส่วนตัวของนายพัฒนพล หรือดีเจแมน กล่าวว่า วันนี้ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันทุกเรื่องและสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ต่างฝ่ายได้ขอโทษซึ่งกันและกัน ส่วนอีกคดีนั้นก็ว่ากันไปตามขั้นตอนทางคดี แต่จะขอไม่ลงรายละเอียดว่าทั้งคู่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้อย่างไร เพราะว่าเป็นกระบวนการไกล่เกลี่ยของศาล ทั้งนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ทั้งคู่สามารถปรับความเข้าใจจนได้ข้อยุติในคดีนี้แล้ว โดยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ขอบคุณผู้พิพากษาที่ช่วยให้การไกล่เกลี่ยจบลงได้ด้วยดี จึงอยากให้คดีต่างๆ ได้มาเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยยุติคดี