แม้ค้าทุเรียนแจ้งความถูกหนุ่มแชทหลอกขอดูภาพลับ ก่อนข่มขู่เรียกเงิน 5 หมื่น อ้างภรรยาจับได้ ขู่ฟ้องชู้
วันนี้ (2 ก.ค.) น.ส.หยก (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี แม่ค้าทุเรียน พร้อมด้วย นายณธัชพงศ์ บุญเกิด หรือ “ทนายกบ” เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หลังถูกชายคนหนึ่งรู้จักผ่านเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “คุณเจมส์” แชทพูดคุยในลักษณะลามก หลอกขอดูภาพลับ ก่อนนำภาพดังกล่าวมาข่มขู่เรียกเงินจำนวน 50,000 บาท อ้างว่าภรรยาของฝ่ายชายเห็นข้อความและจะดำเนินคดีในข้อหาชู้สาวหากไม่ยอมจ่ายเงิน
น.ส.หยก เปิดเผยว่า รู้จักกับชายคนดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “คุณเจมส์” โดยทักมาพูดคุยในลักษณะจีบตามปกติ แต่เพียงไม่กี่ข้อความก็เริ่มชวนคุยเรื่องลามก ส่งภาพอวัยวะเพศของตนมา พร้อมข้อความว่า “แข็งโป้กเลย” จากนั้นขอดูหน้าอกและอ้างว่าจะโอนเงินให้ 500 บาท ตนจึงส่งภาพจากอินเทอร์เน็ตที่มีชุดชั้นในให้ดู แต่ฝ่ายชายรู้ว่าไม่ใช่ภาพจริง จึงตื้อให้ตนถ่ายภาพจริงส่งไป ตนหลงเชื่อจึงส่งภาพหน้าอกจริงของตนไป พร้อมเลขบัญชี แต่สุดท้ายไม่มีการโอนเงินให้
หลังจากนั้น ชายคนดังกล่าวเสนอเงินเพิ่มอีก 5,000 บาท เพื่อแลกกับการถ่ายภาพอวัยวะเพศ ตนเริ่มสงสัยและปฏิเสธไป ต่อมาฝ่ายชายเริ่มเปลี่ยนท่าที ทักมาบอกว่าภรรยาเห็นแชททั้งหมด พร้อมขู่จะส่งภาพลับของตนไปให้ลูก และเพื่อนของลูก รวมถึงคนรู้จัก พร้อมอ้างว่าจะดำเนินคดีข้อหาชู้สาว และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
โดยฝ่ายชายยังอ้างอีกว่าภรรยาเป็นคนแชทแทน และยืนยันว่าจะไม่รับคำขอโทษ พร้อมอ้างว่าปรึกษาทนายแล้ว ถ้าไม่ต้องการให้เรื่องถึงศาลให้โอนเงินมา 50,000 บาท ต่อรองลดเหลือ 30,000 บาท แต่ตนไม่มีเงินและเริ่มสงสัยจึงมาปรึกษาทนาย ก่อนจะตัดสินใจเข้าแจ้งความ ทั้งนี้ฝ่ายชายยังทักไปหาคนรู้จักของลูกสาวกล่าวหาว่าตนแย่งสามีคนอื่น ตนจึงอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่อแบบตนอีก พร้อมยืนยันว่าตนกับชายคนดังกล่าวไม่เคยโทรคุยหรือพบเจอกันตัวจริงเลย
ด้านทนายกบ เปิดเผยว่า ทนายกบ เปิดเผยว่า หลังตรวจสอบหลักฐานแชทเบื้องต้น แนะนำให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีฝ่ายชายจำนวน 9 บาท เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันความเชื่อมโยงบัญชีดังกล่าวกับผู้ก่อเหตุ และใช้ประกอบสำนวนคดีในการสืบสวนติดตามตัว โดยเงินจำนวน 9 บาทนี้ ไม่มีผลเสียต่อผู้เสียหาย แต่ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยตำรวจแกะรอยผู้กระทำผิด
เรื่องนี้เข้าข่ายความผิดในหลายข้อหา ได้แก่ 1.ความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 2.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าสื่อลามกหรือข้อมูลอันไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ 3.ความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา 4.ความผิดฐานข่มขู่ให้ผู้อื่นตกใจกลัว ส่วนข้อหาชู้สาวที่ฝ่ายชายกล่าวอ้าง ไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่เคยพบเจอกันจริง หรือมีพฤติกรรมแสดงตนเป็นสามีภรรยากันแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทนายกบฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่แฝงตัวอยู่ในโซเชียล หากมีการพูดคุยลักษณะชู้สาวหรือส่อไปในทางลามก ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน อย่าหลงเชื่อหรือตกเป็นเหยื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือข่มขู่ในลักษณะเช่นนี้