xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กเต่า" เผยพบเส้นเงิน"เจ้าคุณอาชว์" โอนให้สีกาคนสนิท 9 หมื่น-รับอดีตเจ้าอาวาสถูกแบล็กเมล 7 ล้านจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.ก.เผยพบบัญชีต้องสงสัยโอนให้สีกาคนสนิท"เจ้าคุณอาชว์"   9 หมื่นบาท เร่งตรวจสอบเส้นเงินว่ายักยอกของวัดหรือไม่? รับสีกาข่มขู่แบล็กเมล 7 ล้านจริง ส่วนพระวัดตรีฯ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร

วันนี้ (1 ก.ค.)ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวภายหลังประชุมติดตามความคืบหน้ากรณี พระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ เจ้าคุณอาชว์ เจ้าคณะภาค 14-15 (ธ.) อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ลาสิกขาอย่างกระทันหันว่า ผลการเข้าตรวจค้นวัดเมื่อวานที่ผ่านมา ข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆที่ได้มายังไม่น่าพอใจ รวมถึงยังไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานกับทางรักษาการเจ้าอาวาสวัดคนใหม่เกี่ยวกับเรื่องการแต่งตั้งไวยาวัจกรขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำให้การตรวจสอบวัดง่ายขึ้น

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ความผิดที่ปรากฎอยู่ในขณะนี้ยังพบเพียงแค่เรื่องผู้หญิง แต่เชื่อว่า หากเขาได้เงินจากพระไป เงินดังกล่าวก็น่าจะเป็นเงินที่มาจากวัด ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบเส้นเงินต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง หากได้รับข้อมูลสเตทเมนท์จากธนาคารมาเมื่อไหร่ การดำเนินการต่าง ๆ ก็จะทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงรู้ว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางใด

รอง ผบช.ก.กล่าวต่อ จากการเข้าตรวจสอบวัดเมื่อวาน เบื้องต้นพบบัญชีธนาคารที่เป็นของวัดแล้ว 5 บัญชี แต่ยังมีบัญชีอีกบางส่วนที่น่าสงสัย ซึ่งเราจะตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกระจ่างชัด ส่วนจะมีเส้นเงินเชื่อมโยงไปถึงสีกาคนสนิทเจ้าคุณอาชว์ หรือไม่นั้น ขณะนี้พบเพียงยอดเงินจำนวน 9 หมื่นบาท ยังบอกไม่ได้ว่าเป็นเงินวัดหรือไม่ เพราะต้องรอตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินให้แน่ชัดก่อน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องที่สีกา ข่มขู่เรียกเงิน 7 ล้านบาท จากเจ้าคุณอาชว์ เบื้องต้นจากข้อมูลที่ได้รับ ทราบว่ามีอยู่จริง แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงิน หากถามว่า การกระทำของ สีกา จะเข้าข่ายความผิดกรรโชกทรัพย์ หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ เจ้าคุณอาชว์ จะประสงค์แจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า ตอนนี้เจ้าคุณอาชว์ คงไม่มาให้ความร่วมมือหรือแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าสำหรับจุดประสงค์หลักที่ทางตำรวจ ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ปปช. เดินทางไปที่วัดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นั้น ก็เพื่อต้องการจะไปเป็นคนกลางช่วยเจรจาให้เจ้าตัวยอมสึกเนื่องจากได้รับประสานมาจากพระชั้นผู้ใหญ่ และ ทางสำนักพุทธให้เข้าไปช่วยเจรจา เหตุเพราะก่อนหน้านี้ทางพระผู้ใหญ่และสำนักพุทธเคยเจรจาขอให้ เจ้าคุณอาชว์ ยอมสึกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เจ้าตัวไม่ยินยอม แม้จะมีหลักฐานเป็นภาพคลิปวิดีโอ และ แชต สนทนากับสีกา ที่แสดงให้เห็นว่ากระทำผิดวินัยสงฆ์อย่างชัดเจนก็ตาม ซึ่งหากปล่อยไว้ก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาคลิปหลุดตามมา ซึ่งจะทำให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย เราจึงต้องไปเพื่อยับยั้งปัญหา แต่ปรากฏว่าในวันที่ตำรวจเดินทางไปวัดนั้นไม่พบตัวเจ้าคุณอาชว์

รอง ผบช.ก.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตำรวจต้องรีบเข้าไปตรวจสอบวัด เนื่องจากเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องของทรัพย์สินวัด กลัวว่า เจ้าคุณอาชว์ หลังสึกไปแล้วจะนำทรัพย์สินวัดติดตัวไปด้วย ส่วนจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาด้วยหรือไม่นั้นขณะนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะต้องรอข้อมูลสเตทเม้นจากทางธนาคาร มาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน เช่นเดียวกับเงินในบัญชีธนาคารของ เจ้าคุณอาชว์ ที่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของ สีกาคนสนิทเจ้าคุณอาชว์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตามหาตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็อยากให้มาพบ แต่เจ้าตัวยังคงบ่ายเบี่ยง ส่วนการจะเข้าไปสอบปากคำคนในวัด หรือ ไวยาวัจกร ของวัดอีกรอบหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลารวบรวมข้อมูลเตรียมตัวให้มากกว่านี้ก่อน แล้วจะกลับเข้าไปสอบปากคำใหม่อีกครั้ง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงเรื่องที่มีการเปรียบเทียบ ว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่แตกต่างกับคดีของ ทิดแย้ม นั้น อยากชี้แจงว่า ในเคสคดีทิดแย้มนั้น ก่อนหน้าจับกุม หรือ ดำเนินคดี ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานจนเห็นการทุจริตต่าง ๆ ชัดเจน แต่กรณีเจ้าคุณอาชว์ เราพึ่งได้รับข้อมูลเรื่องวินัยมาเท่านั้นเอง ยังไม่เห็นข้อมูลทุจริต จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ


กำลังโหลดความคิดเห็น