"นายกสภาทนายความ" เผย "ศิลปินแห่งชาติ" จิ๊กผลงานศิลปะไปขายให้หน่วยงานรัฐ ผิดฐานยักยอกทรัพย์ ส่วนหน่วยงานรัฐที่รับซื้ออาจโดนข้อหา"รับของโจร"
วันนี้( 27 มิ.ย.) กรณีนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ โพสต์เฟซบุ๊ก หญิงสาวรายหนึ่งถูกศิลปินแห่งชาติชื่อดังที่เจ้าตัวให้ความเคารพ ยืมผลงานที่เป็นเจ้าของไป แต่ต่อมาศิลปินแห่งชาติรายนั้น กลับขายผลงานให้หน่วยงานของรัฐแห่งหนึ่ง และยังไม่สามารถตามผลงานที่เป็นเจ้าของกลับคืนมาได้ รวมทั้งแจ้งความไว้แล้วแต่คดีกลับไม่คืบหน้า รวมถึงถูกงัดบ้านพักและถูกโทรศัพท์ปริศนาโทรมาข่มขู่อีก
ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่บุคคลใดก็ตามไปยืมผลงานบุคคลอีกคนหนึ่งมาไม่ว่าจะนำมาเพื่อประโยชน์ใช้สอยในด้านใดก็ตาม ต่อมารู้สึกว่าอยากได้สิ่งของนั้นมาครอบครองและนำสิ่งของชิ้นนั้นไปขายหรือว่าจำนำให้กับโรงรับจำนำ กรณีแบบนี้ถือว่าเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352 เพราะถือว่าเป็นการส่งมอบทรัพย์สินให้บุคคลที่ 3 และถ้าเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์ หน่วยงานที่รับซื้อต่อมาจากผู้ที่ยักยอกทรัพย์มานั้น อาจจะเข้าข่ายความผิดข้อหารับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357
เมื่อถามว่าหน่วยงานราชการที่รับซื้อผลงานที่เป็นปัญหามาจากศิลปินแห่งชาติคนดังกล่าว หน่วยงานนั้นสามารถอ้างได้ไหมว่า ไม่ทราบตั้งแต่แรกว่า ผลงานดังกล่าวถูกยักยอกมา
ดร.วิเชียร กล่าวว่า ถ้าเป็นกรณีนี้หน่วยงานดังกล่าวสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ แต่ถ้าพูดถึงการแจ้งข้อกล่าวหานั้น พนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อกล่าวหาแก่หน่วยงานนั้นว่ามีความผิดในฐานรับของโจรอยู่แล้ว หลังจากนั้นจึงจะไปพิสูจน์ว่า รู้ตั้งแต่แรกแล้วหรือไม่ว่าผลงานดังกล่าวถูกยักยอกมาหรือไม่ทราบว่าเป็นสิ่งของที่ถูกยักยอกมา
เมื่อถามว่า เจ้าของผลงานกับศิลปินแห่งชาติ ยังอยู่ในสถานะที่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่
ดร.วิเชียร กล่าวว่า ความผิดฐานยักยอกทรัพย์เป็นความผิดที่สามารถยอมความกันได้ โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องหาข้อตกลงกันเองว่าจะยอมไกล่เกลี่ยหรือไม่ แต่ถ้าเจ้าของผลงานไม่ยอมไกล่เกลี่ยก็จะต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย