"อี้-แทนคุณ"พาผู้เสียหาย ถูกยึดคอนโดเอี่ยวคดีจำนำข้าว ร้องศาลฎีกา โอดร้องหลายหน่วยงานแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า
วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่สำนักประธานศาลฎีกา สนามหลวง นายแทนคุณ จิตอิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัติย์ และประธานชมรมสันติประชาธรรม พาผู้เสียหายจากคดีที่ถูกยึดคอนโด โครงการที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตคดีจำนำข้าวและไม่ได้รับเงินคืนมากว่า 12 ปี
นายแทนคุณ กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจำนวน 926 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 300 กว่าล้านบาท ซึ่งเกิดจากการที่ถูกรัฐอายัดทรัพย์ของผู้ที่ไปซื้อคอนโด โครงการก่อสร้าง 5 โครงการ ที่ น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร ลูกสาวของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพรหรือเสี่ยเปี๋ยง เป็นเจ้าของบริษัท กีธา พร๊อพเพอร์ตี้ ว่า มีส่วนเกี่ยวพันกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์กลับคืนสู่แผ่นดิน ทั้งนี้ประชาชนผู้เสียหาย ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าโครงการนี้ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของการทุจริตโครงการจำนำข้าว เมื่อถูกอายัดและไม่สามารถเรียกร้องขอเงินคืนได้ และเมื่อโครงการสร้างเสร็จก็ไม่สามารถโอนได้ ไม่สามารถทำนิติกรรมธุรกรรมได้ ตนไม่อยากให้เหมารวมอายัดเงินทั้งหมด เพราะกลุ่มผู้เสียหายเหล่านี้ใช้เงินบริสุทธิ์มาทำการซื้อ จึงได้มาขอให้ทางศาลฎีกาเมตตาช่วยแยกเงินเฉลี่ยคืนให้แก่ผู้เสียหาย เพราะว่าเงินผู้กระทำผิดจะหมุนมาอย่างไร ไปโกงใครมาไม่มีใครทราบ เพราะมันเป็นโครงการสร้างขึ้นตามปกติ แล้วคนเข้าไปเช่าซื้อตามปกติ เมื่อทำสัญญาเรียบร้อยแล้วกลับถูกยึด หลายคนต้องเสียดอกเบี้ยโดยไม่เห็นอนาคตว่าจะเอาทรัพย์คืนใคร
นายแทนคุณกล่าวว่า การกระทำผิดลักษณะนี้เป็นการกระทำผิดของรัฐต่อประชาชน เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องไปสืบหาทรัพย์ของผู้กระทำความผิดที่แท้จริงเพื่อนำคืนสู่รัฐ เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้หมือนกับว่า เป็นการสร้างปัญหาซ้ำกับปัญหาอีกครั้งหนึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อน บางคนรอเงินคืนจนเครียดเสียชีวิต เรื่องนี้ชาวบ้านใช้เวลาในการต่อสู้มานานถึง 12 ปี ได้ยื่นคำร้องไปยังรัฐสภาแล้วไปยังหน่วยงานต่างๆ สุดท้ายคดีมาอยู่ในชั้นศาลทำให้เราต้องมาขอความเป็นธรรมจากศาลฎีกาเป็นที่พึ่งสุดท้าย
ผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ในการจองทำสัญญาซื้อขาย ปรากฏว่าภายหลังถูกอายัด บริษัทได้นำห้องของตนให้ผู้อื่นเช่า ในขณะที่ตนเป็นเจ้าของห้องกลับไม่ได้รายได้ สุดท้ายเมื่อศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน ตนและลูกบ้านที่เป็นผู้เสียหายอยากขอความยุติธรรมให้ศาลมีคำสั่งคืนเงินให้กับผู้เสียหาย เพราะใช้เวลาต่อสู้มานาน 12 ปีแล้ว อยากขอความเห็นใจแก่ประชาชนผู้เสียหายทุกคนให้ได้เงินคืน แม้ว่าในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ศาลฎีกาจะเห็นว่ารัฐเป็นผู้เสียหาย ในขณะที่ประชาชนต้องไปยื่นฟ้องร้องกับบริษัทเอาเอง แต่ว่าบริษัทปิดตัวไปหมดแล้วจำเลยในคดีนี้ต่างถูกจำคุก ตนไม่รู้จะไปยื่นฟ้องร้องกับใคร มีประชาชนบางคนไปฟ้องแพ่งกับบริษัทเอง ขณะที่ ปปง.ไปคัดค้าน เพราะไม่มีกฎหมายรองรับให้คืนเงินแก่ผู้เสียหาย จึงอยากขอความเมตตาจากศาลสูงให้ช่วยเหลือประชาชน