xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก"อานนท์ นำภา"จัดม๊อบ 5 แยกลาดพร้าว อีกคดี 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา ปรับ 10,200 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 นายนายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำกลุ่มราษฎร ปราศรัยในม๊อบห้าแยกลาดพร้าวเมื่อปี 2563
ศาลอาญาสั่งจำคุก "อานนท์ นำภา" จัดม๊อบ 5 แยกลาดพร้าว ปี 63 อีกคดี 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา และปรับ 10,200 บาท ส่วน “ฮิวโก้-จิรฐิตา” จำคุก 2 ปี ปรับ10,200 บาท แต่ให้โอกาสกลับตัว รอลงอาญาไว้ 3 ปี

ที่ห้องพิจารณาคดี 714 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (25 มิ.ย.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี อ.3476/2566 ที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง นายอานนท์ นำภา ทนายความและแกนนำกลุ่มราษฎร ,นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายภานุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก อดีตนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง ,น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ,น.ส.จิรฐิตา หรือฮิวโก้ ธรรมรักษ์ นักกิจกรรมกลุ่มราษฎร, นายคริษฐ์ อร่ามพิบูลกิจ อดีตแกนนำกลุ่มราษฎร จำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือ แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และข้อหาอื่น ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ

คดีนี้อัยการโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 จำเลยทั้ง 6 คน กับพวกได้ร่วมกันจัดการชุมนุม โดยประกาศชักชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมทางการเมือง ที่มีชื่อว่า “ม๊อบ2 ธันวา ไล่จันทร์โอชาออกไป 16.00 น.ห้าแยกลาดพร้าว” ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลาออก และให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศและปฎิรูปสถาบันกษัตริย์

เหตุเกิดที่ห้าแยกลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.

โดยวันนี้มีเพียง นายอานนท์ จำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ได้ประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และน.ส.จิรฐิตา หรือ ฮิวโก้ จำเลยที่ 5 มาฟังคำพิพากษา ส่วนจำเลยอื่นหลบหนี อย่างไรก็ตามการอ่านคำพิพากษาในวันนี้มีญาติ เพื่อน และบุคคลใกล้ชิดของจำเลยมาฟังคำพิพากษาจนแน่นห้องพิจารณาคดี

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1 และ 5 เป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี จำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 3 ปี ฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5 คนละ 15,000 บาท

แต่ทางนำสืบจำเลยที่ 1 และ 5 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ 1 ใน 3 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ คงจำคุกมีกำหนด 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 5 คงจำคุกมีกำหนด 2 ปี
ฐานร่วมกันฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ปรับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5 คนละ 10,000 บาท ส่วนความผิดฐานร่วมกันโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตปรับเป็นพินัยคนละ 200 บาท

รวมโทษจำคุก นายอานนท์ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญษ และปรับ 10,200 บาท ส่วนน.ส.จิรฐิตา จำเลยที่ 5 รวมโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 10,200 บาท

ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 5 เคยรับโทษมาก่อน ประกอบกับกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้เพียงคดีเดียว เนื่องจากเห็นว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่และต้องการเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อการกระทำเป็นความผิดและถูกดำเนินคดี จำเลยที่ 5 ก็เลิกกระทำการดังกล่าว ถือเป็นการรู้สึกถึงความผิด เพื่อให้โอกาสจำเลยที่ 5 กลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกเห็นควรให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี คุมความประพฤติ 2 ปี และบำเพ็ญประโยชน์แก่ส่วนรวม มีกำหนด 36 ชั่วโมง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายอานนท์ เคยถูกศาลอาญา (รัชดา) พิพากษาจำคุกมาแล้ว 7 คดี ประกอบด้วย คดีหมายเลขดำ อ.2495/2564 ของศาลอาญา,หมายเลขดำ อ.2804/2564 ของศาลอาญา,หมายเลขดำ อ.1676/2564 ของศาลอาญากรุงเทพใต้,หมายเลขดำ อ.735/2564 ของศาลอาญา,หมายเลขดำ อ.1395/2565 คดีหมายเลขดำ อ.1629/2564 คดีหมายเลขดำ อ.910/2567 ของศาลอาญา จำคุก 2 ปี มีกำหนด 20 ปี 10 เดือน 20 วัน เมื่อรวมคดีนี้หมายเลขดำ อ.3476/2566 นายอานนท์ จึงโดนจำคุกแล้วทั้งหมด 8 คดี รวม 22 ปี 18 เดือน 20 วัน
กำลังโหลดความคิดเห็น