วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และ นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผอ.ปปส.ภาค 1 แถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี รวม 17,572 คดี ผู้ต้องหารวม 17,601 คน ของกลาง ยาบ้า 10,460,000 เม็ด ไอซ์ 4,337 กก. เคตามีนรวม 245 กก.และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ ตรวจยึดทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 740 ล้านบาท
คดีที่ 1 จับกุมยาบ้า 60,000 เม็ด ทีมโกดังยาเสพติด “เอก หนองยาว” ส่งมอบกันในพื้นที่ จ.สระบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ตำรวจได้จับกุมแหล่งพักยาเสพติด “โกดังเปรม ปชน.” ได้ผู้ต้องหา 1 คน ตรวจยึดไอซ์ 217 กก. ยาบ้า 560,000 เม็ด ยาอี 3,163 เม็ด เคตามีน 88 กรัม ได้ที่บริเวณอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนทราบว่ามีกลุ่มของ นายเอกรัตน์ พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.สระบุรี เคยเดินทางมารับยาเสพติดจากแหล่งพักยาเสพติด “โกดังเปรม ปชน.” จึงสืบสวนเฝ้าติดตาพฤติการณ์กลุ่มของ นายเอกรัตน์ หรือ “เอก หนองยาว” มาโดยตลอด
จนกระทั่งวันที่ 20 มิ.ย. ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 นำโดย พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย ภ.จว.สระบุรี กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี บก.ขส.บช.ปส. หน่วยข่าวกรองทางทหารศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ นำโดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ. กองพันข่าวกรองทางทหาร นำโดย พ.อ.พูลศักดิ์ พรประเสริฐ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 นำโดยนายปริญญา ปิดเมือง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ
ร่วมกันจับกุมทีมโกดังยาเสพติด “เอก หนองยาว” ได้ผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายสุรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี น.ส.สุทธิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นายเอกรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 60,000 เม็ด เคตามีน) น้ำหนัก 1.91 กรัม รถยนต์ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง แจ้งข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ
สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เวลา 00.50 น. นายเอกรัตน์ ได้ขับรถยนต์นำยาบ้าที่ใส่ไว้ในกล่องกระดาษสีน้ำตาล มาวางไว้ที่จุดนัดหมาย บริเวณริมถนนสาย 3021 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวางกล่องยาบ้าเรียบร้อยแล้วได้รีบขับรถออกไป หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 นาทีต่อมา ได้มี นายสุรัตน์ และ น.ส.สุทธิดา ขับรถยนต์มายังจุดที่วางกล่องยาบ้าไว้ และ น.ส.สุทธิดา เป็นผู้ลงมาหยิบกล่องยาบ้าขึ้นรถแล้วพากันขับออกไป เมื่อมีการส่งและรับยาบ้ากันเรียบร้อยแล้ว ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติ ได้สะกดรอยติดตามดูพฤติการณ์ในทุกขั้นตอนอยู่แล้ว ได้ติดตามรถยนต์ทั้ง 2 คัน เมื่อถึงสถานที่ปลอดภัย
จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้นรถยนต์คันที่ นายสุรัตน์ และ น.ส.สุทธิดา นำมารับยาบ้า ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 60,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องวางอยู่ในรถ ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดหนึ่งที่ได้สะกดรอยติดตามรถยนต์ของ นายเอกรัตน์ เมื่อนำมายาบ้ามาวางไว้ที่จุดนัดหมายแล้ว ได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ตำรวจได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสระบุรีเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในบ้านและภายในรถยนต์พบ เคตามีน น้ำหนัก 1.91 กรัม จึงจับกุมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ตำรวจสืบสวนขยายผลหาตัวผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือในคดีนี้ต่อไป
คดีที่ 2 จับกุมยาบ้า 7.2 ล้านเม็ด ที่โกดังแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค. เวลาประมาณ 06.10 น. ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และยาไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กก. จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 1 นำโดย พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และชุดขยายผลฯ ของ ศอ.ปส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่า เครือข่ายของแหล่งพักยาเสพติด ต.ราชคราม ดังกล่าว ได้ไปรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือ และมาเช่าโกดังซึ่งอยู่ที่บริเวณริมถนนพหลโยธิน อ.พระพุทธบาท ไว้เพื่อรอรับยาเสพติดเตรียมส่งต่อให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวตลอดมา
จนกระทั่งในวันที่ 21 มิ.ย. เวลาประมาณ 18.00 น. ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สนธิกำลัง เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ริมถนนพหลโยธิน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า 7,200,000 เม็ด จับกุม นายกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี และ นายโชคชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี กำลังจัดเตรียมยาบ้าเพื่อส่งให้กับลูกค้า
แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ตำรวจสืบสวนขยายผลหาตัวผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือในคดีนี้ต่อไป
คดีที่ 3 ตรวจยึดยาบ้า 3,200,000 เม็ด ในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. เวลา 22.25 น. ตำรวจ สภ.หน้าพระลาน จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนกับขอบทาง บริเวณริมถนนสายหน้าพระลาน-หนองจาน ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ภายในรถมีสิ่งของคล้ายยาเสพติด ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จึงทำการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในรถยนต์ ผลการตรวจสอบตรวจยึดสิ่งของภายในรถ ดังนี้ ยาบ้า จำนวน 8 กระสอบ รวมประมาณ 3,200,000 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 10 นัด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ตำรวจสืบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำความผิด ผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป.