ตร.ปากเกร็ด รวบตัวมิจฉาชีพใช้เช็คเด้ง หลอกยายสมบุญ เรือรั่ว เผยพฤติกรรมยึดอาชีพโจร ถูกตำรวจบางชันจับ ขณะ ลวงเหยื่อหลอกขายโทรศัพท์ พบมีคดี ฉ้อโกงประชาชนติดตัวหลายคดี
จากกรณีที่นางสาวสมบุญ มีทะนาน อายุ 88 ปี หรือ “ยายสมบุญ เรือรั่ว” อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.8 ต.สี่หมื่น อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งคุณยายเคยมีข่าวโด่งดังเรื่อง พายเรือไปขายของที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก แต่เกิดเรือรั่ว จนชาวบ้านต้องมาช่วยกันนำคุณยายขึ้นจากเรือ ก่อนจะจมน้ำ และมีคนร่วมบริจาคเงินมาซ่อมเรือและช่วยซ่อมแซมบ้านที่พุพัง แต่ล่าสุดกลับถูกมิจฉาชีพเป็นชาย 2 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานหนึ่งและเป็นช่างที่จะมาช่วยซ่อมบ้าน ได้นำเช็คจำนวน 580,000 บาท มาให้อ้างเป็นเงินที่จะมาช่วยซ่อมบ้าน แต่เนื่องจากเงินจากเช็คจะเข้าช้า ต้องเบิกเงินจากบัญชีของยายมาซ่อมบ้านก่อน ทำให้ยายหลงเชื่อไปเบิกเงินในบัญชีของยายมาให้ รวมทั้งเงินสดที่มีอยู่ด้วยรวมกว่า 200,000 บาท ซึ่งในช่วงเวลาชายทั้ง 2 คนเป็นคนพาไป และนำเช็คไปเข้าบัญชีให้ยายด้วย ทำให้ในบัญชีมีตัวเลข 580,000 บาท ทำให้ยายหลงเชื่อเบิกเงินของยายมาให้มิจฉาชีพที่อ้างว่าจะไปซื้ออุปกรณ์มาซ่อมบ้าน แล้วก็หายหนีไป ต่อมาคุณยายสมบุญ มาเอาสมุดบัญชีไปปรับที่ธนาคาร ทางธนาคารก็บอกว่าเช็คที่สั่งจ่ายมามีลายเช็นต์ไม่เหมือนกับเจ้าของเช็ค จึงทำให้เงินไม่เข้าบัญชีรู้ว่าถูกหลอกจึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ดำเนินสะดวก เพื่อให้ช่วยติดตามคนร้ายและอยากจะได้เงินคืนเพื่อเอามาซ่อมแซมบ้านเหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ที่จังหวัดราชบุรี
ล่าสุดวันที่ 20 มิ.ย.68 ที่ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับจุมตัว นายก้องกิดากร โพธิ์กุล อายุ 37 ปี ที่อยู่ 11 ม.2 ต.เขาเพิ่ม อ.บ้านนา จ.นครนายก เนื่องจากวันที่ 18 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายที่ สภ.ปากเกร็ด ว่าผู้แจ้งได้โพสส์ขายโทรศัพท์มือถือ ต่อมาได้มีคนทักสนใจจะซื้อโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว และโดนหลอก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าพบบุคคลที่หลอกซื้อโทรศัพท์ตนเองที่ห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์ แขวง/เขต คันนายาว กทม. จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ไปที่ห้างดังกล่าว และควบคุมตัวบุคคลดังกล่าว มาที่ สน.บางชัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด เดินทางไปที่ สน.บางชัน เมื่อไปถึงพบนายก้องกิดากร โพธิ์กุล และขอทำการตรวจค้นตัวนายก้องกิดากรฯ ผลไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้นำตัวนายก้องกิดากรฯ มาทำประวัติและตรวจสอบประวัติ ที่ สภ.ปากเกร็ด โดยความยินยอมของนายก้องกิดากรฯ จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายก้องกิดากรฯ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.255/2566 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ” หรือคดีของ “ยายสมบุญ เรือรั่ว” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับให้นายก้องกิดากรฯ ตรวจสอบดูจนเป็นที่พอใจแล้วรับว่า ตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมในคดีนี้มาก่อน เมื่อผู้ต้องหาเข้าใจข้อกล่าวหา และรับทราบสิทธิตามกฎหมายดีแล้ว ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา จึงได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก ภ.จว.ราชบุรี รับตัวผู้ต้องหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้นำตัวนายก้องกิดากรฯ เดินเข้าไปพบเจ้าพนักวานสอบสวน นายก้องกิดากรฯ ใช้มือปิดบังใบหน้า และขอไม่คุยกับผู้สื่อข่าว และอ้างกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีทนายความส่วนตัว ซึ่งการจากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่านายก้องกิดากรฯ มีประวัติฉ้อโกงหลายคดีความ ขณะเข้าจับกุมภายในวันนี้นายก้องกิดากรฯ กำลังหลอกใช้เช็คให้กับผู้เสียหายอีกราย เป็นพฤติกรรมเดียวกันกับคดี “ยายสมบุญ เรือรั่ว”