ตำรวจ ปคบ.บุกจับแหล่งผลิตเครื่องสำอางนวดสปาแบรนด์ดังส่งขายทั่วประเทศ พบใช้แรงงานกรอกใส่ขวด อ้างโรงงานเดิมผลิตไม่ทัน จึงขยายฐานการผลิต
วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี นำหมายค้นศาลแขวงนนทบุรี เข้าตรวจสอบ บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ม. 1 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับร้องเรียนว่าลักลอบผลิตเครื่องสำอางนวดสปาโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนกระจายส่งขายตามท้องตลาด หรือ ร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป
เมื่อไปถึงพบ นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแล ตรวจสอบภายในบ้านพักพบถูกดัดแปลงให้มีลักษณะคล้ายกับโรงงาน โดยมีกลุ่มคนงานกำลังช่วยกันผลิตเครื่องสำอางด้วยการกรอกมือใส่ขวดบรรจุเตรียมส่งขายให้กับลูกค้า ขาดซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขลักษณะ สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค รวมถึงไม่มีใบอนุญาตการจัดตั้งสถานที่ผลิตหรือโรงงาน เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับใช้นวดสปา ยี่ห้อเลดี้ฟลาวเวอร์ สมุนไพร แอนด์ สปา ,ขวดบรรจุภัณฑ์ และ วัตถุดิบ อุปกรณ์ในการผลิต ต่าง ๆ รวม 211 รายการ จำนวน 776,352 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 1,500,000 บาท ไว้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
จากการสอบถามผู้ดูแล และ กลุ่มพนักงาน ทราบว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเคยทำงานเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางบริษัทชื่อดังมาก่อน ต่อมาปี 2525 ได้ลาออกมาประกอบกิจการเอง ทดลองผสมครีม นำมันนวดสปาสูตรและกลิ่นต่าง ๆ และได้จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอางยี่ห้อ เลดี้ ฟลาวเวอร์ สมุนไพร แอนด์ สปา ขึ้นเพื่อผลิตและวางจำหน่ายส่งให้พ่อค้าคนกลาง และตามร้านขายเครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริมสวยทั่วประเทศ ปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 700,000 บาท ต่อเดือน
โดยบริษัทฯ ได้ขอเลขจดแจ้งผลิตภัณฑ์ (เลข อย.) และขออนุญาตผลิตเครื่องสำอางตั้งอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แต่เนื่องจากมีออร์เดอร์จำนวนมาก ไม่สามารถผลิตภายในบ้านเลขที่ดังกล่าวได้เพียงพอ จึงย้ายพื้นที่มาผลิตที่บ้านหลังดังกล่าวแทนโดยไม่ได้มีการขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสถานที่ผลิตแต่อย่างใด ส่วนวัตถุดิบต่าง ๆ จำพวกครีมโลชั่นและออยล์ จะสั่งมาจากบริษัทผลิตเครื่องสำอาง ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ บรรจุถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร จากนั้นก็จะนำมากรอกลงขวด กระปุก ติดสติกเกอร์ นำส่งขายให้กับลูกค้า
ขณะที่ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นต่าง ๆ ได้สั่งสารตั้งต้นมาจาก บริษัทจำหน่ายเคมีภัณฑ์ ย่านปทุมวัน โดยส่งมาเป็นแกลอนขนาด 3 ลิตร จากนั้นจะนำหัวน้ำหอมมาผสมเพื่อจำแนกกลิ่น เมื่อได้กลิ่นตามสูตรแล้ว จึงนำออกบรรจุ โดยให้คนงานกรอกลงขวด ติดสติกเกอร์ ออกขาย โดยจะมีเซลล์นำสินค้าไปเสนอขายตามสถานที่ต่าง ๆ ขายส่งในราคาขวดละ 70 - 300 บาท แล้วแต่ชนิดของเครื่องสำอาง ส่วนขวดเปล่า กระปุก ฝาจุก สั่งมาจากบริษัทแห่งหนึ่งย่านเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เช่นเดียวกับฉลากหรือสติกเกอร์สำหรับติดขวดผลิตภัณฑ์ สั่งมาจากโรงพิมพ์แห่งหนึ่งย่านบางเขน จากนั้นเมื่อได้อุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว จะนำมาบรรจุเครื่องสำอางโดยใช้แรงงานกรอกลงขวดหรือกระปุกเพื่อส่งขายต่อไป
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายทุน หรือ เจ้าของโรงงาน รวมไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง ,พ.ร.บ.สมุนไพร ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป