xs
xsm
sm
md
lg

ไรเดอร์หนีตรวจหมวก ตร.ไล่ตามกระชากจนผู้โดยสารร่วงหัวฟาดพื้นเจ็บ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจ สน.ปทุมวันวิ่งไล่ตามกระชากไรเดอร์ขี่ จยย.หนีตรวจคนไม่สวมหมวก ทำผู้โดยสารซ้อนท้ายร่วงหัวฟาดพื้นได้รับบาดเจ็บ

จากกรณีมีการโพสต์คลิปเหตุการณ์ ตำรวจ สน.ปทุมวัน วิ่งตามกระชากรถมอเตอร์ไซค์แกร็บที่ไม่ยอมหยุดจอดจากการเรียกตรวจ จนผู้โดยสารเกิดอุบัติเหตุหัวกระแทกได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณน้าห้างสรรพสินค้า MBK ซึ่งหลังจากมีการโพสต์เรื่องราวดังกล่าวออกไปได้มีคนเข้ามาคอมเมนต์และแชร์กันจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งคำถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ หรือเหตุใดไรเดอร์จึงไม่ยอมหยุดรถให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่นั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ สน.ปทุมวัน ไรเดอร์คนขับ อายุ 36 ปี และหญิงผู้โดยสาร รวมถึงพี่ชายผู้โดยสารได้เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับนายตำรวจภายในคลิปวิดีโอดังกล่าว

พี่ชายผู้เสียหายเปิดเผยว่า น้องสาวเป็นผู้โดยสารซ้อนท้ายคนที่กำลังขับไรเดอร์เรียกรถจากแยกสามย่านไปยังพญาไท พอขับไปถึงจุดเกิดเหตุบริเวณหน้า MBK สังเกตเห็นว่ามีตำรวจจราจรยืนอยู่ไม่กี่คน ไม่ได้มีการตั้งด่านเป็นกิจลักษณะ และด่านดังกล่าวมีการตรวจจับเกี่ยวกับผู้ที่ไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ซึ่งชายคนขับไรเดอร์สวมใส่หมวกกันน็อก แต่คนซ้อนที่เป็นน้องสาวของตนเองนั้นไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อก พอถึงจุดที่ตรวจทำให้คนขับไรเดอร์ตัดสินใจขี่รถหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ตำรวจได้วิ่งตามจับก่อนจะกระชากน้องสาวของตนเองหล่นลงมาจากรถจักรยานยนต์ จนทำให้น้องสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บศีรษะมีอาการบวมช้ำ หัวไหล่มีรอยถลอกช้ำ ส่วนคนขี่ไรเดอร์ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าเป็นแผลถลอก

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าว ตนทราบว่า เขาเป็นคนเรียกรถพยาบาลให้กับน้องสาวและคนขี่ไรเดอร์ นอกจากนี้ยังมีผู้บังคับบัญชาได้โทรศัพท์เข้าไปหานายตำรวจคนดังกล่าวให้เข้ามาขอโทษน้องสาว รวมถึงคนขี่ไรเดอร์ที่ สน.ปทุมวัน เบื้องต้นเขาได้มาขอโทษแล้ว แต่ตอนนี้ตนเองและน้องสาวจะแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนไรเดอร์ ตัวเองและน้องสาวไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด เพราะตั้งแต่เกิดเหตุเขาก็อยู่กับน้องสาวมาโดยตลอดยอมรับผิดพร้อมบอกว่าจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้กับน้องสาว

ส่วนตัวมองว่าทุกคนก็ผิดกันหมด แต่ผิดก็ว่าไปตามผิด ให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการแจ้งความ ตนทราบมาว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาคุยกับตนแล้วแต่ตนไม่ทราบว่าเป็นใคร ตำรวจให้ข้อมูลว่าเป็นการตั้งด่านจราจร ตรวจสอบผู้ไม่ใส่หมวกกันน็อก และเห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงเข้าระงับเหตุ

และอยากฝากถึงสังคมว่า ทั้งคนขับและคนซ้อนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้ดี จะต้องมีหมวกกันน็อกทั้ง 2 ใบ และผู้ซ้อนควรเรียกร้องหมวกกันน็อกจากผู้ขี่หากไม่มีก็ควรไม่ขึ้นรถไปเพื่อป้องกันความปลอดภัย และในส่วนของตำรวจก็อยากจะให้มองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นมันเกินกว่าเหตุหรือไม่

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ไรเดอร์คนดังกล่าวต้องเสียค่าปรับ 1,500 บาท พร้อมถูกแจ้งข้อหา 1.ไม่จัดหาหมวกกันน็อคให้ผู้โดยสาร 2.ฝ่าไฟแดง 3.ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานหยุดรถ 4.ไม่พกใบขับขี่ในขณะเจ้าหน้าที่เรียก และตอนนี้ผู้เสียหายต้องการแจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถแจ้งความได้ พนักงานสอบสวนจะให้ผู้เสียหายนั้นลงบันทึกประจำวันเอาไว้ แต่ผู้เสียหายไม่ยินยอม ขณะนี้ทางไรเดอร์และผู้เสียหายได้ขึ้นไปพูดคุยกับผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน

ต่อมา พ.ต.อ.ศิริชาติ จันทร์พรมมา ผกก.สน.ปทุมวัน ออกมาเปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นตนเองยังไม่ได้เห็นคลิปจากกล้องหน้ารถว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร เนื่องจากได้ให้ความสำคัญกับตัวผู้ได้รับบาดเจ็บก่อน

แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ไรเดอร์นั้นได้ขับรถฝ่าฝืนการจราจรโดยมีการฝ่าไฟแดง ทำให้เจ้าหน้าที่จราจรต้องมีการสกัดจับแต่วิธีการนั้นต้องดูว่า ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งตนเองยืนยันว่าจะมีการเรียกตัวเจ้าหน้าที่จราจรคนดังกล่าวมาสอบถาม

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาคนขับไว้ 4 ข้อหาคือ 1.ขับรถฝ่าไฟแดง 2.ไม่สวมหมวกนิรภัย 3.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ และ 4.ข้อหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่รับจ้างสาธารณะ (ป้ายเหลือง)




กำลังโหลดความคิดเห็น