วันนี้ (11 มิ.ย.) นายธนธัส ขุนนุช เจ้าของเพจ ธนธัส ขุนนุช รองเอส ได้เดินทางรับตัวหญิงสาวถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกไปทำงานที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กักขังและไม่ให้ติดต่อญาติ สืบเนื่องจากมีหญิงสาวอายุ 21 ปี ส่งข้อความขอความช่วยเหลือมาทางเพจ ธนธัส ขุนนุช รองเอส ระบุว่า "สวัสดีค่ะ หนูมาขอความช่วยเหลือ หนูโดนคนในเฟซหลอกมาทำงานที่พนมเปญค่ะ วันที่ 13 นี้ หนูต้องย้ายไปปอยเปตค่ะ หนูอยากกลับบ้านมากๆ เลยค่ะช่วยหนูหน่อยค่ะ มีการขู่มีการยึดโทรศัพท์แล้วก็กักขัง"
เมื่อทราบเรื่องได้ทำการสืบค้นประวัติหญิงสาว ทราบชื่อ น.ส.ณัฐวดี (สงงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี และ น.ส.พรพรม (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี จึงได้ติดต่อประสานครอบครัวจนทราบว่า มารดาของ น.ส.ณัฐวดี ได้มาแจ้งความกับ พ.ต.ท.เชษฐา อ่อนสุด รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม ว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค. น.ส.ณัฐวดี และ น.ส.พรพรม เพื่อนลูกสาว บอกว่าจะเดินทางไปทำงานที่ จ.สระแก้ว โดยมีรถยนต์มารับที่ ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ต่อมาวันที่ 3 มิ.ย. เวลา 00.00 น. ลูกสาวโทรมาบอกว่าถูกหลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา
นายธนธัส ได้ติดตามเรื่องราวจนทราบว่า หญิงสาวทั้งสองคนได้ขอความช่วยเหลือไปยังเพจต่างๆ แต่ไม่มีการตอบกลับ จึงตัดสินใจเข้าช่วยเหลือ โดยเริ่มจากให้ครอบครัวไปยื่นเรื่องที่ กระทรวงต่างประเทศ ได้รับการแนะนำให้ยื่นเรื่องที่กงสุล และรอข้อความตอบกลับทางอีเมล แต่ทางครอบครัวเกรงว่าลูกสาวจะตกอยู่ในอันตราย นายธนธัส จึงประสานไปยังผู้ช่วยทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ พร้อมส่งข้อมูลทั้งหมดให้ ทางสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ได้เร่งประสานตำรวจปอยเปต และตำรวจกรุงพนมเปญ
ทางตำรวจกัมพูชาได้ติดตามจนทราบว่า มีหญิงสาวสองคนข้ามมาทำงานในสถานที่แห่งหนึ่ง และเตรียมนำกำลังบุกตรวจค้น แต่ฝ่ายคนจีนซึ่งคาดว่าเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไหวตัวทัน นำผู้หญิงสองคนไปทิ้งไว้ห่างกันประมาณ 100 กม. ตำรวจกรุงพนมเปญกระจายข่าวตามหา จนชาวบ้านในพื้นที่เจอตัวและแจ้งตำรวจกรุงพนมเปญ เมื่อตำรวจมารับตัวได้พาไปพักที่เซฟเฮ้าส์ พร้อมประสานกลับมาที่สถานทูตไทย ให้เดินทางไปรับตัวหญิงสาวสองกลับมา
น.ส.ณัฐวดี และ น.ส.พรพรม เล่าให้ นายธนธัส ฟังว่า มีรุ่นน้องติดต่อมาในเฟซบุ๊กชวนไปทำงานที่ จ.สระแก้ว ได้เงินเดือน 18,000 บาท บวกค่าคอมฯตกเป็นเงิน 25,000 บาท น.ส.ณัฐวดี จึงชวน น.ส.พรพรม ไปทำงานด้วย พอไปถึง จ.สระแก้ว มีรถมารอรับ จากนั้นได้ขายทั้งสองให้คนกัมพูชา มีคนหนึ่งพูดขึ้นว่าได้ค่าหัวเป็นหมื่น ก่อนพาไปฝึกทำงานคอลเซ็นเตอร์ พร้อมขู่ว่าถ้าไม่ทำจะฆ่าทิ้ง แล้วถ้าทำยอดไม่ได้จะส่งไปขายตัว
หลังฝึกงาน 2 วันเสร็จมีรถมารับแล้วพาไปที่กรุงพนมเปญ ทั้งสองจึงแกล้งทำตัวดีจนแก๊งคอลเซ็นเตอร์เชื่อใจ อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์หลังเที่ยงคืน เลยติดต่อบอกแม่และขอความช่วยเหลือไปทางเพจต่างๆ แต่ไม่มีการตอบกลับ จึงขอความช่วยเหลือไปยังเพจ ธนธัส ขุนนุช รองเอส เพราะเห็นว่าเป็นคน จ.สมุทรสงคราม ด้วยกัน ขณะนี้ นายธนธัส กำลังช่วยดำเนินเรื่องขอกลับประเทศไทย และยืนยันว่าไม่ได้หนีข้ามพรมแดน
นอกจากนี้ นายธนธัส ได้ออกมาตอบโต้ผู้ไม่หวังดี ที่มีการปล่อยข่าวว่า ตนเองและทีมงานเรียกค่าช่วยเหลือจากหญิงสาวทั้งสองคน คนละ 20,000 บาท เป็นข่าวลวงไม่เป็นความจริง ทางตนใช้งบประมาณส่วนตัว และการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ เพื่อช่วยเหลือคนไม่เคยร้องขอ คนตกเป็นเหยื่อก็ทุกข์ใจมากพอแล้ว ขณะนี้นำตัวทั้งสองกลับมายังประเทศไทยแล้ว ก่อนพาไปเสียค่าปรับฐาน "เป็นบุคคลสัญชาติไทย เข้า-ออก ไม่ผ่านช่องทางที่กฎหมายกำหนด" จำนวน 800 บาท ที่ สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว.