ตำรวจภูธรภาค 1 ประชุมร่วม 4 หน่วยงานแบ่งหน้าที่คลี่คลายคดีเงิน 12 ล้านบาท เผยทำหนังสือประสานธนาคารขอข้อมูลที่มาของเงิน สั่งชุดทำงานรายงานผลคืบหน้าทุกสัปดาห์
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 ประชุมหารือกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนชุดคลี่คลายคดีเงิน 12 ล้านบาท ที่ถูกซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์ ชั้น 4 ตึก P2 คอนโดเมืองทองธานี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาน
ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยว่า วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มาครบทุกองค์กร เพื่อหารือกันว่าจะตรวจสอบที่มาที่ไปของเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งวันนี้ได้แบ่งหน้าที่กับหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมแล้วเรียบร้อย ส่วนทางตำรวจภูธรภาค 1 ได้ทำหนังสือถึงธนาคารกสิกรไทยแล้ว โดยขอข้อมูลจากธนาคารว่าเงินชุดนี้มีที่มาอย่างไร อย่างไรก็ตาม จะต้องรอหนังสือธุรกรรมการเงินจากทางธนาคารก่อน แต่ระหว่างรอตำรวจก็เดินหน้าสืบสวน โดยสั่งการให้ชุดทำงานรายงานผลคืบหน้าทุกสัปดาห์
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ระบุว่า แบ่งหน้าที่กันทำแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งยังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะ เพื่อพิสูจน์ว่าเงินนี้ได้มาอย่างไร งานนี้คงไม่นานเกินรอ
ส่วนเรื่องเงินก้อนนี้จะบอกได้หรือไม่ว่ามาจากการทุจริตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ วันนี้การตรวจสอบเริ่มนับหนึ่งแล้ว จากนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่สักระยะหนึ่ง ส่วนจะโยงเข้าเรื่องการเมืองหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่ยืนยันว่า หากเงินถึงใครก็ดำเนินการถึงคนนั้น ตนให้คำมั่นได้ว่าไม่มีคำว่าหนักใจสำหรับเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า การถอนเงินในปี 2563 เป็นบัญชีเดียวหรือไม่ นายภูมิวิศาลกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในสำนวน แต่เรามีข้อมูลในระดับหนึ่งแล้วว่าออกมาจากบัญชีจำนวนหนึ่ง
ส่วนเงินก้อนนี้เป็นเงินที่เตรียมไหลออกหรือไม่ นายภูมิวิศาลกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเงินตั้งอยู่ในจุดที่พบ ส่วนเงินจะเข้าหรือออก ปงง.จะเป็นผู้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดของนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ว่ามีจุดน่าสงสัยหรือเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นหรือไม่
นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. กล่าวถึงมติการตรวจสอบการยื่นทรัพย์สินของภรรยานายทวีวัฒน์ที่เป็น ผอ.ในหน่วยงาน ป.ป.ช.ว่า ตอนนี้ภรรยาของนายทวีวัฒน์ติดภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศ หากเสร็จภารกิจแล้วจะต้องเข้ามาชี้แจงว่ารับทราบหรือไม่สำหรับเงินก้อนนี้ แต่อย่างไรต้องให้ความเป็นธรรม