จากผู้เตือนภัยสู่ผู้ต้องหา! โซเชียลฯ แห่แชร์"หมอแอร์" สวมเครื่องแบบตำรวจ เตือนภัยหญิงสาวระวังมิจฉาชีพใช้ "ยาเสียสาว" มอมเหยื่อ ล่าสุดกลับถูกจับคดีจัดหา-จำหน่ายยาชนิดเดียวกัน ชาวเน็ตวิจารณ์หนัก สุดย้อนแย้ง-ผิดหวัง
จากกรณี พ.ต.อ.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์ อดีตรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติและจิตแพทย์ชื่อดัง ถูกเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานบุกจับกุมฐานจัดหา-จำหน่ายยาอัลปราโซแลมหรือยานอนหลับหรือยาเสียสาว ซึ่งจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4
ล่าสุด วันนี้ (10 มิ.ย.) มีรายงานว่าในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิป หมอแอร์ ที่เคยทำวิดีโอเตือนภัยหญิงสาวให้ระวังมิจฉาชีพที่ใช้ยานอนหลับหรือ ยาเสียสาว ผสมในเครื่องดื่มเพื่อก่อเหตุ
โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าว หมอแอร์ ซึ่งอยู่ในเครื่องแบบข้าราชการตำรวจเต็มยศ ได้อธิบายถึงกลลวงของมิจฉาชีพที่มักใช้ยานอนหลับหรือสารกล่อมประสาทเป็นเครื่องมือในการก่อเหตุ โดยคนร้ายจะใช้วิธีสุดแยบผลด้วยการใช้เข็มฉีดยาที่มีตัวยาอยู่ภายใน เจาะเข้าไปที่บริเวณใต้กระป๋องหรือขวดเครื่องดื่มที่ยังไม่ได้เปิด ก่อนจะใช้สก็อตเทปปิดร่องรอยไว้ ทำให้เหยื่อไม่สามารถสังเกตเห็นความผิดปกติได้จากภายนอก
จากนั้น มิจฉาชีพจะใช้หลักจิตวิทยาเข้ามาตีสนิท ทำทีเป็นคนรู้จักหรือเพื่อนใหม่ เพื่อสร้างความไว้วางใจ ก่อนจะหยิบยื่นเครื่องดื่มที่เตรียมไว้ให้เหยื่อดื่ม เมื่อเหยื่อดื่มเข้าไปจนตัวยาออกฤทธิ์และหมดสติไป กลุ่มคนร้ายก็จะลงมือปลดทรัพย์สินมีค่าต่างๆ แล้วหลบหนีไปอย่างลอยนวล ที่เลวร้ายไปกว่านั้น หมอแอร์ยังเตือนว่าเหยื่ออาจถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือทำมิดีมิร้ายได้อีกด้วย
ท้ายคลิป หมอแอร์ ยังได้แนะนำวิธีป้องกันตัวอย่างชัดเจนและได้ผลที่สุด นั่นคือการปฏิเสธเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้าโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะดูน่าไว้วางใจเพียงใดก็ตาม การยึดหลักปลอดภัยไว้ก่อนและไม่ประมาท คือ เกราะป้องกันที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้รอดพ้นจากภัยอันตรายในลักษณะนี้ได้
จากคลิปดังกล่าวผู้ใช้งานโซเชียลฯ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ว่า การกระทำของ หมอแอร์ ซึ่งเคยปรากฏตัวในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ ทำคลิปเตือนภัยหญิงสาวให้ระวังการถูกมอมยาจากคนแปลกหน้า แต่ตนเองกลับตกเป็นผู้ต้องหาในคดีจัดหาและจำหน่ายยาชนิดเดียวกันนี้เสียเอง สร้างความรู้สึกสุดย้อนแย้งและผิดหวังแก่ผู้ที่เคยชื่นชมเป็นอย่างมาก