ผบช.ภ.1 เผยกรณีเงิน 12 ล้านบาทในลังพลาสติก ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นของ “ทวีวัฒน์” แต่ข้อมูลยังไม่สอดคล้อง อยู่ระหว่างสอบสวนเพิ่มเติม
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยถึงกรณีเงินจำนวน 12 ล้านบาท ในลังพลาสติกซึ่งถูกนำมาวางทิ้งไว้จุดทิ้งขยะคอนโด ย่านเมืองทองธานี ก่อนที่นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เป็นผู้ที่ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของเงินดังกล่าว ว่า เบื้องต้นทางเรายังทำการสอบปากคำนายทวีวัฒน์ ในฐานะพยาน ซึ่งเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์มาก มีการส่งหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอจากนิติบุคคลที่เห็นกล่องลังว่าอยู่ภายในห้องและมีน้ำรั่วซึมจริงตามคำให้การ ซึ่งตำรวจได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำไปแล้ว
เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่า เงินดังกล่าวเป็นของนายทวีวัฒน์จริง แต่ต้องไปตรวจสอบว่า เงินถูกถอนมาจากบัญชีใคร วันที่ไปถอนเจ้าตัวไปเองหรือใครไปถอนรวมถึงเงินมาอยู่ในห้องนี้ได้อย่างไร ซึ่งเงิน 12 ล้านบาทนี้ ถูกถอนมาในช่วงเดือน พ.ค.63 แต่ไม่ได้ออกมาครั้งเดียว จึงต้องตรวจสอบในประเด็นนี้เพิ่มเติม
ส่วนก่อนหน้านี้ทางนายทวีวัฒน์ได้นำหลักฐานมาชี้แจงสอดคล้องกับเงิน 12 ล้านบาทหรือไม่ พล.ต.ท.สุรพล ระบุว่า หลักฐานเส้นทางการเงินที่นำมายื่นยังไม่สอดคล้องกับรายได้ 12 ล้านบาทที่เบิกออกมา ซึ่งจากการสอบปากคำเจ้าตัวมีการชี้แจงแล้วว่าถอนเงิน 12 ล้านบาทออกมาเพื่อไปทำอะไร โดยหนึ่งในเหตุผลมีเรื่องของการเล่นการเมืองอยู่ด้วย แต่รายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวน
พล.ต.ท.สุรพล เปิดเผยอีกว่า ส่วนตัวมองว่า การถอนเงินเอกมาแล้วใส่ไว้ในห้องเฉยๆ ผิดวิสัยคนปกติ ซึ่งหากเป็นตนจะนำไปไว้ในธนาคาร เพราะยังได้ดอกเบี้ย แต่ก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าของเงินที่จะเอาไปไว้ไหนก็ได้ ซึ่งตำรวจจะขอเวลาในการสอบสวนเพิ่มเติม อีกทั้งคงไม่ได้เป็นการจัดฉาก อย่างไรก็ตามจะเรียกตัวภรรยาของนายทวีวัฒน์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านโทรศัพท์ว่า วันพรุ่งนี้ทาง บก.ปปป. ร่วมกับ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. จะเข้าหารือและประสานข้อมูลกับตำรวจภูธรภาค 1 เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนและขอเส้นทางการเงินกรณีเงิน 12 ล้านบาท ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค1 โดยทางนายทวีวัฒน์ อ้างว่าเบิกเงินดังกล่าวมาในปี 63 ว่ามีการเบิกจ่ายจากธนาคารใด วันเวลาไหน และเบิกมาจำนวนเท่าไร อีกทั้งยังต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการว่าความที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นทนาย หรือเป็นเงินที่ได้มาแบบไม่ถูกต้อง
รวมถึงนายทวีวัฒน์จะต้องชี้แจงเหตุผลในการถอนเงินสดดังกล่าวด้วย และเหตุใดทำไมไม่เอาเงินสดไว้ในตู้เซฟ ส่วนตัวมองว่าไม่สมเหตุสมผล ซึ่งไม่ใช่แค่ตอนที่มองแบบนี้ สื่อและประชาชนรวมถึงหน่วยงานที่ตรวจสอบการทุจริตทุกคน ก็มองไปในทางเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ขอให้ประชาชนมั่นใจการทำงาน ขอเวลาให้เจาหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้สักระยะ รับรองได้คำตอบแน่นอน ส่วนกรณีนี้จะโยงกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ชุดเดียวกับของบิ๊ก จ. หรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังไม่สามารถตอบได้