"แอม ไซยาไนด์"จำเลยคดีวางยาพิษเหยื่อ ยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รวม 3 คดี อ้างบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำผิด ศาลนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย ช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.ปี 2569
วันนี้ (9 มิ.ย.) ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐานคดีฆาตกรรมวางยาพิษ ที่นางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ เป็นจำเลย รวม 3 คดี ได้แก่ คดีหมายเลขดำ อ.839/2568 คดีหมายเลขดำ อ.1192/2568 และคดีหมายเลขดำ อ.1193/2568 ซึ่งมีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ เวลา 08.35 น.ศาลเบิกตัวนางสรารัตน์ จำเลยมาจากทัณฑสถานหญิงกลางมายังศาลอาญา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวนางสรารัตน์ ขึ้นมาจากห้องควบคุมผู้ต้องขังไปยังห้องพิจารณาคดี 805
ขณะที่บรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดี มีเพียงแค่พนักงานอัยการฝ่ายโจทก์กับทนายความของแอม ไซยาไนด์ และผู้รอพิจารณาคดีอื่นเท่านั้น ไม่ปรากฏว่ามีญาติของผู้ตาย รวมทั้ง น.ส.ธันย์นิชา และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามี เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีแต่อย่างใด
สำหรับคดีหมายเลขดำ อ.839/2568 เป็นคดีการเสียชีวิตของนางมณฑาทิพย์ ขาวอินทร์ ซึ่งกล่าวหา นางสรารัตน์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" จำนวน 4 ข้อหา ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปลอมปนอาหารให้บุคคลอื่นใช้และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นหรือแก่ความตายลักทรัพย์ และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน จากการสอบคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.สรารัตน์ยังให้การปฏิเสธ
เมื่อถึงเวลานัด อัยการฝ่ายโจทก์แถลงต่อศาลยื่นบัญชีพยานและขอสืบพยานโจทก์ จำนวน 31 ปาก ประกอบไปด้วย เครือญาติของผู้ตาย เพื่อนผู้ตาย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ส่วนฝั่งจำเลยขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานใหม่ เนื่องจากติดขัดปัญหาเอกสารไม่ครบ แต่เบื้องต้นจะยื่นสืบพยาน 7 ปาก ประกอบไปด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สามีของผู้ตาย รวมถึง พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีของน.ส.สรารัตน์ ศาลพิเคราะห์แล้ว นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 9 มิ.ย.2569 เวลา 09.00 น.
อย่างไรก็ตามเนื่องจากการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ ศาลจึงได้ได้เลื่อนคดี"แอม ไซยาไนด์" ที่จะต้องตรวจพยานอีก 2 สำนวนคดีออกไปเป็นช่วงบ่าย
เมื่อถึงเวลานัดเวลา 13.30 น.ศาลสอบคำให้การจำเลยและตรวจพยานเอกสาร คดี อ.1192/2568 ที่อัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ เป็นจำเลย
ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การปฎิเสธ
ศาลสอบถามแนวทางต่อสู้คดี ซึ่งจำเลยแถลงว่า จำเลยกับน.ส.กรรณิกา ตุลาเดชานุรักษ์ ผู้ตายรู้จักกันเป็นเพื่อนของเพื่อน นอกจากนี้จำเลยไม่ได้นำสารพิษโพแทสเซียมไซยาไนด์ปลอมปนใส่ลงในอาหารให้ผู้ตายรับประทาน จำเลยไม่เคยหลอกลวงผู้ตายและไม่เคยเอาทรัพย์ของผู้ตายไป
ต่อมาโจทก์แถลงว่า มีเอกสารที่จะให้จำเลยตรวจสอบรวม 31 ฉบับ ขณะที่ทนายความจำเลยแถลงไม่มีพยานเอกสารหรือพยานวัตถุที่จะส่งต่อศาล
โจทก์แถลงขอสืบพยานรวม 27 ปาก ใช้เวลา 5 นัด จำเลยแถลงขอสืบพยาน 4 ปาก ใช้เวลา 1 นัด
ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ 5 นัด สืบพยานจำเลย 1 นัด รวมทั้งหมด 6 นัด โดยกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 19 พ.ค.2569 เวลา 09.00 น.
ส่วนคดีอ.1193/2568 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ เป็นจำเลย
ศาลอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลสอบถามแนวทางต่อสู้คดี ซึ่งจำเลยแถลงว่าจำเลยกับนางมณีรัตน์ พจนารถ ผู้ตายรู้จักกัน ผู้ตายเป็นพี่สาวของสะใภ้ของจำเลย และจำเลยไม่ได้นำเอกสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ปลอมปนใส่ในอาหารให้ผู้ตายรับประทาน
โจทก์แถลงว่ามีพยานเอกสารที่จะให้จำเลยตรวจสอบรวม 21 ฉบับ ซึ่งศาลรับไว้ ขณะที่ทนายความจำเลยแถลงไม่มีพยานเอกสารและพยานวัตถุที่จะส่งในวันนี้
ต่อมาโจทก์แถลงต่อศาลขอส่งสืบพยานรวม 20 ปาก ใช้เวลา 4 นัด ส่วนทนายความจำเลยแถลงขอส่งเอกสาร 5 ปาก ใช้เวลา 1 นัด
พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรให้สืบพยานโจทก์ 4 นัด และสืบพยานจำเลย 1 นัด รวมทั้งหมด 5 นัด โดยกำหนดนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 21 เม.ย.2569 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาประหารชีวิต นางสรารัตน์ ในคดีการเสียชีวิตของก้อยหรือ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ นอกจากนี้ ศาลยังได้พิพากษาจำคุก 2 ปีจำเลยอีก 2 คนในกรณีช่วยเหลือซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน เพื่อให้แอม ไซยาไนด์ รับโทษน้อยลง คือ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ หรือทนายพัช และ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี และอดีต รอง ผกก.สภ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งต่อมาศาลได้ลดโทษ 1 ใน 3 ของ พ.ต.ท.วิฑูรย์ ให้จำคุกแค่ 1 ปี 4 เดือน เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ โดยทั้งสองคนได้รับการประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์ต่อสู้คดี
อย่างไรก็ตามน.ส.สรารัตน์ หรือ"แอม ไซยาไนด์"ยังเหลือคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 11 คดี