2 หนุ่มเข้าร้องเรียนทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ถูกนักวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ฉ้อโกงอ้างมีเส้นหาของมาขายให้ถูกกว่าท้องตลาด เสียเงินกว่า 2 แสนบาท
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายจตุพร (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี และ นายพีรศิลป์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เดินทางเข้ามาร้องเรียนกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยให้ข้อมูลว่า ถูกนักวิชาการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายหนึ่ง ฉ้อโกง อ้างว่า เป็นข้าราชการมีเส้นสายดี โดยสามารถนำของมาขายได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด แต่สุดท้ายเชิดเงินหนี วันนี้จึงมาขอความเป็นธรรม
นายพีรศิลป์กล่าวว่า ได้โพสต์ตามหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต้องการการ์ดจอกับซีพียูในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง และต้องการรุ่นลิมิเต็ดเท่านั้น เพราะตนเองมีอาชีพเขียนโปรแกรม จึงอยากได้รุ่นที่แรงในราคาที่ไม่สูงเกินไป หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ทักตนมาว่ามีอุปกรณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่ารู้จักกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ดังกล่าว จะคุยเรื่องราคาให้ ตนจึงตกลงทำการซื้อขาย บวกกับเชื่อใจเพราะผู้ต้องหาเป็นถึงข้าราชการในกระทรวงคิดว่าไม่น่าโกง โดยล็อตแรกตนซื้อของโอนเงินไป 7 หมื่นบาท ได้ของ จนกระทั่งรอบสุดท้ายรวมไม่ได้ของ ถึงรู้ตัวว่าถูกหลอก เมื่อติดต่อไปที่ตัวของผู้ต้องหาก็เงียบ ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ โดยตนซื้อขายทั้งหมด 4 ครั้ง ความเสียหายกว่า 2 แสนบาท
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่ามีคอนเน็กชั่น มีเส้นสายรู้จักกับหน่วยงาน ตนทำการสั่งของไปก็ไม่ได้ของเช่นเดียวกัน ความเสียหายกว่า 3 แสนบาท จากนั้นจึงตามสืบเรื่องของผู้ต้องหา พบว่ามีคดีติดตัวกว่า 12 คดี ตั้งแต่ปี 65-66 เกี่ยวกับการฉ้อโกง และคิดว่าทำเป็นขบวนการ พอติดต่อไปให้รับผิดชอบ อ้างแค่ว่าตัวเขาเองก็โดนลูกค้าคนอื่นโกงเช่นกัน จากนั้นก็เงียบหายไป นอกจากนั้นไม่ใช่แค่ตนที่โดนยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากบางคนแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่คืบหน้า ตนจึงสงสัยว่าผู้เสียหายเยอะขนาดนี้ ทำไมผู้ต้องหายังมีหน้ามีตาอยู่ในวงข้าราชการได้อย่างไรโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ขณะที่ นายเอกภพ กล่าวว่า ทั้งสองเคสนี้คือขบวนการโกง หรือเรียกว่าการตกเบ็ด โดยใช้อุบายหลอกล่อ ผู้ต้องหาจะสร้างความน่าเชื่อถือ มีการเปิดบัญชีในรูปแบบของบริษัท เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ จึงฝากถึงประชาชนหากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ แจ้งมาที่เพจสายไหมเพื่อให้ตรวจสอบได้ ส่วนที่เขาอ้างตัวว่าเป็นข้าราชการจริงหรือไม่นั้น จะประสานนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบให้อย่างละเอียด