MGR Online - ช่างเบิร์ด พร้อมผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า นัดคุย บ.ไชน่า เรลเวย์ - อิตาเลียนไทย - 9PK จ่ายเงินก้อนแรกกว่า 5 ล้านบาท ช่วยปลดหนี้สินบางส่วน อีก 4 ล้าน ยังไม่มีข้อสรุป
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ “ช่างเบิร์ด” เจ้าของบริษัท บีแอล รุ่งเรืองทรัพย์ จำกัด และตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมาช่วง พร้อมด้วย นายอาทิตย์ ว่องวสุสมวงศ์ ทนายความส่วนตัว เดินทางมาเจรจากับ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) - บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) - บริษัท 9PK จำกัด เพื่อนัดจ่ายเงินค่าจ้างแก่ผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า กรณีก่อสร้างตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ (สตง.) หลังมีปัญหาถูกเบี้ยวเงินมานานกว่า 1 ปี โดยให้เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมเป็นพยาน
นายฐิติพงศ์ เปิดเผยก่อนเข้าเจรจากับตัวแทนบริษัท ว่า วันนี้มีการนัดหมายสัญญาจะจ่ายเงินก้อนแรกที่ทางบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท อิตาเลียนไทย จะจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า ซึ่งทั้ง 2 บริษัท จะหักเงิน 5% เป็นเงินประกันผลงานของบริษัท 9PK จำกัด นำมาเฉลี่ยจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วงทั้งหมดที่มีเอกสารยืนยันยอมรับสภาพหนี้ เป็นจำนวนเงิน 5,542,529.74 บาท จากเดิมยอดเต็มทั้งหมด 9,624,786.92 บาท โดยมีกำหนดจะจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วง
นายฐิติพงศ์ เผยว่า ส่วนการพูดคุยภายในระหว่าง 3 บริษัท ถึงข้อสรุปการจ่ายเงินยอดที่เหลือ คือ 4,082,257.18 บาท ซึ่งเท่าที่ทราบ น่าจะยังเคลียร์กันไม่จบ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอฟังก่อนในวันนี้ ว่าจะได้ข้อสรุปออกมาเป็นอย่างไร ส่วนตัวยังไม่รู้รายละเอียด คงต้องไปพูดคุยกันในที่ประชุม นอกจากนี้ ในส่วนผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า ที่ให้สัญญาและรับสภาพหนี้ไว้ วันนี้เดินทางมาครบ เพราะว่าถ้ารับเงินไปแล้ว บริษัทจะให้เราเซ็นรับทราบ ก็คงกลัวว่าพวกเราจะมาเรียกร้องอะไรอีก สำหรับยอดที่จะได้ของแต่ละเจ้า เชื่อว่าน่าจะได้เกิน 50% และมั่นใจว่าเขาจะจ่ายเป็นเงินโอนเข้าบัญชีของผู้รับเหมาช่วงโดยตรง
"ยอมรับว่า ตัวเองอยากได้เงินเป็นก้อน แม้เงินก้อนแรกที่ได้มาจะได้มาครึ่งเดียว แต่ก็ต้องรับเอาไว้ก่อน ส่วนยอดเงินที่เหลืออีก 4 ล้านกว่าบาท อยู่ระหว่างหาข้อสรุป ว่าทางบริษัท 9PK จะทยอยจ่ายให้กับผู้รับเหมาช่วงอย่างไรต่อไป เพราะทางบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท อิตาเลียนไทย บอกแล้วว่าถ้าจบจ่ายเงินเงินก้อนนี้ไปแล้ว งวดที่เหลือต้องเป็นหน้าที่ของบริษัท 9PK ที่จะเป็นเจ้าภาพ ส่วนตัวยอมรับว่าไม่ได้มั่นใจบริษัทนี้เท่าไหร่ เพราะถ้าเขาจะจ่ายจริง ตัวเองทำงานมาเป็นปี เขาคงจ่ายพวกเรามานานแล้ว"
ต่อมา เวลา 14.00 น. นายฐิติพงศ์ กล่าวหลังได้รับเงินค่าแรงก้อนแรก ว่า ผู้รับเหมาช่วงทุกราย ได้รับเงินค่าจ้างที่ค้างชำระแล้วทั้งหมด ทุกเจ้าได้เงินคืนประมาณครึ่งนึงจากยอดเต็ม มีเพียงประมาณ 2-3 เจ้า ยอดไม่ถึง 100,000 บาท ที่ได้เต็มจำนวน โดยตนเองถือเป็นเจ้าที่ยอดเงินค้างชำระสูงสุด แต่วันนี้ได้เงินแล้ว มีเงินเข้าบัญชี 2 บัญชี เพราะมีทั้งในนามบัญชีส่วนตัว คือ 1,725,283.28 บาท และในนามบริษัท บีแอล รุ่งเรืองทรัพย์ จำกัด คือ 364,874.16 บาท คงเหลือค้างอยู่ 1,642,266.56 บาท
นายฐิติพงศ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่จะได้นำไปใช้จ่ายงวดบ้าน และรถที่ค้างอยู่ วันนี้ก็ถือว่าเป็นไทยไปได้ในระดับหนึ่ง ด้วยระยะเวลาที่ยืดเยื้อมานานปีกว่าๆ ที่ผ่านมาต้องไปกู้หนี้ยืมสินญาติพี่น้อง วันนี้ก็จะเอาไปใช้คืนให้หมด แต่ยอมรับว่ายังไม่ถึงขั้นยกภูเขาออกจากอก เพราะยังเหลือยอดเงินที่ค้างชำระอยู่อีกครึ่งหนึ่ง และไม่รู้ว่าจะสรุปกันได้หรือไม่ ตลอดการคุยกัน เขาก็รับปากอะไรเราไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ ก็ได้ให้คำมั่นว่าถ้าบริษัทไม่มีเงินมาจ่ายให้ จะบังคับฟ้อง พร้อมยึดทรัพย์สินไปขายทอดตลาด และจะนำเงินมาจ่ายให้กับพวกเรา
“ช่างเบิร์ด” ระบุว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิฯ จะนัดพูดคุยระหว่างผู้รับเหมาช่วง และบริษัท 9PK อีกครั้งในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งจะเป็นการนัดไกล่เกลี่ย หาแนวทาง เพื่อหาข้อสรุปว่าจะสามารถจ่ายเงินยอดที่เหลือได้อย่างไร ซึ่งทางบริษัท 9PK ขอเวลาไปพูดคุยกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ และบริษัท อิตาเลียนไทย ก่อน เพราะตัวเลขที่ไปพูดคุยเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทราบว่ายังตกลงกันไม่ได้ จึงขอเวลาอีกประมาณ 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ ฝากไปถึงผู้ว่าฯ สตง. และทั้ง สตง. อีกครั้งว่า “จนถึงทุกวันนี้ พวกคุณทั้ง สตง. ยังไม่ออกรับผิดชอบอะไรเลย แล้วสิ่งที่พวกคุณออกมาบอกว่า พวกคุณไปขอโทษแต่ละศพ หนึ่งในนั้นก็มีญาติของผม เขายืนยันว่าไม่เคยได้รับคำขอโทษ แล้วการเยียวยาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ครึ่งเหมือนกับหน่วยงานอื่น อนาคตวันข้างหน้าอยากถามว่า คุณกล้าไปตรวจสอบใครหรือไม่ ขนาดบ้านของคุณ ตึกของคุณที่สร้างมากับมือ คุณยังทำมันพังเลย แล้วต่อไปคุณจะไปตรวจสอบใครได้ คุณไม่อายคนอื่นหรอ”
