อัยการเลื่อนฟ้อง "ณฐพร โตประยูร" ข้อหาเอี่ยวฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น ไป 5 มิ.ย.นี้ เจ้าตัวเชื่อเกมการเมือง แต่พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (28 พ.ค.) ที่สำนักอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน (สตง.) เดินทางมารายงานตัวกับพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เพื่อขอเลื่อนการยื่นฟ้อง ในคดีฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น
ภายหลังเข้าพบพนักงานอัยการ นายณฐพร อดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ วันนี้ตนยังไม่ได้รับหมายเรียกจากทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ แต่ทราบข่าวจากสื่อมวลชน จึงเดินทางเข้ามาเพื่อแสดงความบริสุทธ์ว่า ตนเองพร้อมตอบกระบวนการทุกอย่าง กรมสอบสวนคดีพิเศษทำถูกต้องแล้วที่ไม่ออกหมายเรียกตน และในวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนทำหนังสือมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วว่า คดีนี้เป็นคดีหลักที่ศาลยกฟ้องและทุกคดียังต้องรอคดีหลักอยู่ เมื่อสั่งฟ้องก็ต้องจำหน่ายคดีอยู่ดี ตนจึงมองว่าควรที่จะชะลอคดีออกไปก่อน และตนยังแปลกใจที่อัยการทำหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทั้งที่อายุความคดีนี้เหลืออีก 4 ปี ไม่ใช่หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.2568
นายณฐพร กล่าวอีกว่า ตนยังแปลกใจอีกอย่างนึงว่าภายหลังจากที่ยื่นยุบพรรค และยื่นคำร้องคดีต่างๆ ก็มีคนโทรมาเตือนตนว่า ให้ระวังตัวเอาไว้ โดยจะให้อัยการดำเนินคดีกับตนและไม่ให้ยื่นประกันตัว ตนมองว่าไม่สามารถทำได้เพราะทุกคดีการยื่นประกันตัว การสั่งฟ้อง หรือการออกหมายจับจะต้องมีมูล ทั้งนี้ตนได้ไปปรากฎตัวตามหน้าสื่อและสถานที่ต่างๆ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทั้งนี้อยากฝากขอบคุณไปถึงพรรคภูมิใจไทยที่ให้ความสำคัญกับตนจนออกมากันทั้งพรรค โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่บอกว่าถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษจับตัวตนไม่ได้ ก็จะให้กรมการปกครองจับตัวตนแทน การกล่าวแบบนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทตนด้วย เพราะขณะนี้ตนไม่ได้ถูกหมายจับใดๆ ทั้งสิ้น แต่ตนจะไม่ฟ้องนายอนุทินกลับแน่นอน ไม่อยากเอาคดีแบบนี้ไปให้รกศาลด้วย ที่ตนมาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานอัยการ และยังไงวันนี้ก็ยื่นฟ้องตนไม่ได้เนื่องจากอยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์ประกันตัว โดยใช้โฉนดที่ดินต้องให้กรมที่ดินประเมินราคาก่อน และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยื่นฟ้องตนด้วย เพราะคดีนี้ไม่ได้หมดอายุความในวันที่ 15 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ไปรายงานตัวกับดีเอสไอ
นายณฐพร กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ส่งเรื่องมาเองให้กับสำนักอัยการสูงสุด แล้วตนไม่ได้กังวลว่าอัยการจะนำตัวตนเองไปส่งฟ้องศาล เพราะตนมีความจำเป็นจริง เพราะเพิ่งได้รับหมายเรียกเมื่อวานนี้ และในวันนี้ตอนบ่ายโมงก็ให้ตนเดินทางเข้ามารายงานตัวทันที ซึ่งตนจะหาหลักทรัพย์มาประกันตัวทันเวลาได้อย่างไร นอกจากนี้วันพรุ่งนี้สำนักงานอัยการสูงสุดก็เชิญตนไปให้ถ้อยคำในเวลา 10.00 น. จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้เลื่อนการยื่นฟ้องคดีออกไป
เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกอยู่หรือไม่
นายณฐพร กล่าวว่า ตนไม่คาดเดาอะไรทั้งนั้น และจริงๆ คดีนี้มีผู้ต้องหา 14 คน แต่ออกหมายเรียกแค่ 2 คน จึงไม่ได้คิดอะไรเพราะถือว่าอัยการและกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว ตนได้ทำหนังสือส่งให้ฝ่ายนั้นแล้ว และตนยืนยันว่าการที่ตนเป็นนักกฎหมายนั้นจะไม่มีทางหนีคดีโดยเด็ดขาด และอยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่ารัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรไทยก็กำหนดไว้ว่าให้ประชาชนร่วมกันปราบปรามทุจริต แต่เมื่อมีคนออกมาร้องเรื่องทุจริตก็จะโดนฟ้องปิดปาก จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวว่าเรื่องการฟ้องปิดปากควรจะหมดไปได้แล้ว
นายณฐพร กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเลื่อนมาฟังคำสั่งฟ้องของพนักงานอัยการ 30 - 40 ครั้ง เป็นเรื่องจริง เพราะตนเองร้องขอความเป็นธรรมอยู่เพื่อให้ชะลอการฟ้อง เพื่อรอคดีหลักพิจารณาก่อน ทั้งนี้มั่นใจว่าจะยังไม่ถูกนำตัวไปส่งฟ้องเพราะตนเองมีเหตุผลมากพอ เขาคงไม่ใจไม้ไส้ระกำเอาตนเองไปฟ้องวันนี้หรอก
ต่อมาเวลา 13.45 น. ภายหลังเข้าพบพนักงานอัยการนานประมาณ 20 นาที นายณฐพร ได้เดินทางกลับออกมา พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 มีความเมตตา และมองว่ามีเหตุผลจำเป็น จึงอนุญาตเลื่อนนัดส่งตัวฟ้องศาล เป็นวันที่ 5 มิ.ย. 2568 เวลา 09.00 น. ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษก็จะส่งหัวหน้าพนักงานสอบสวนมา ซึ่งตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยถูกต้อง วันที่ 5 มิ.ย.นี้นี้ก็จะมาพบพนักงานอัยการและพร้อมจะยื่นประกันตัว
เมื่อถามว่าคดีนี้มีการเมืองเข้ามากดดันใช่หรือไม่
นายณฐพร กล่าวว่า มีแน่นอน แต่ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำอะไรก็ได้ และตนพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จริง ๆ วันนี้ตนยังไม่ต้องมาก็ได้ เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ส่งหมายมา แต่พอมีข่าวตนก็เลยมา เพราะหากถ้าไม่มา ก็จะเป็นการไปกดดันที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งตนก็เห็นใจฝ่ายนั้น อย่างไรก็ตามขอเตือนพรรคภูมิใจไทยว่า ให้เอาเวลาไปหาพยานหลักฐานมาชี้แจงดีกว่ามาทำแบบนี้ มันไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อให้เอาตนขังคุก ก็มีคนมาร้องต่อได้ ส่วนหากจะฟ้องหมิ่นประมาท ตนผมพร้อม เพราะเป็นข้อหาเดียวกับที่พรรคก้าวไกล ฟ้องตนแล้วศาลยกฟ้อง ส่วนวันที่ 5 มิ.ย.นี้ที่จะมีการส่งฟ้องต่อศาล ตนก็ไม่หวั่นใจ เพราะคดีตนเนื้อหาเบาสุด และมีเหตุผล ส่วนเรื่องอายุความได้สอบถามแล้ว มีบางส่วนที่จะหมดอายุความ หากเป็นเช่นนั้นจริง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ
