xs
xsm
sm
md
lg

รวบหนุ่มบัลแกเรีย ลอบติดเครื่องป่วนสัญญาณตู้ ATM ให้ทำงานขัดข้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจไซเบอร์แถลงจับหนุ่มชาวบัลแกเรีย ร่วมกับพวกก่อเหตุลักลอบติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณตู้ ATM ให้ทำงานขัดข้อง กระทบสถาบันการเงินเสียหาย

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บกฝช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวจับกุมชาวบัลเเกเรีย ลักลอบติดตั้งอุปกรณ์รบกวนการทำงานตู้ ATM จำนวน 13 ตู้

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีสถาบันการเงินแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 ว่า ได้มีคนร้ายแต่งตัวเหมือนเจ้าหน้าที่ซ่อมตู้ ATM และใช้กุญแจมาสเตอร์คีย์ไขหน้าตู้เอทีเอ็ม แล้วถอดเปลี่ยนสายรับส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ภายในตู้เอทีเอ็ม แล้วขโมยเอาสายรับส่งข้อมูลชิ้นเดิมไปโดยพบความเสียหายแล้วจำนวน 13 ตู้ เป็นเหตุให้สถาบันการเงินได้รับความเสียหาย

ต่อา พล.ต.ท.ไตรรงค์ จึงได้สั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดออกสืบสวนกรณีดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยชุดสืบสวนได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่า มีคนร้ายก่อเหตุประมาณ 2-3 ราย ดูจากภาพกล้องวงจรปิดแล้วทราบว่าเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด โดยได้ใช้รถยนต์ Honda รุ่น City สีขาว ซึ่งเป็นรถที่เช่ามาแล้วนำมาใช้ในการก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ติดตามไปยังบริษัทของรถเช่าคันดังกล่าว จนได้ข้อมูลของผู้เช่ารถคัน ดังกล่าวมา จากนั้นจึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของคนร้าย จนพบหลักฐานว่ามีการกระทำในลักษณะดังกล่าวจริง

ในส่วนของสายรับส่งข้อมูลที่คนร้ายนำมาเปลี่ยนกับสายเดิม จากการตรวจสอบพบว่า เป็นสายรับส่ง ข้อมูลที่สามารถส่งข้อมูลไวรัสชื่อ “jackpot” ด้วยการใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตจากซิมการ์ด ที่ถูกติดตั้งไว้ในสายรับส่งข้อมูลดังกล่าว เพื่อรบกวนการทำงานของตู้ และระบบไฟฟ้า ทำให้การถอนเงินออกจากตู้ ATM ดังกล่าว เกิดความขัดข้องส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยทางเศรษฐกิจของประเทศ

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาได้สำเร็จ ต่อมาวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.1 พร้อมหมายหมายคันศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ ค.392/2568 ลงวันที่ 26 พ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรู พื้นที่ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายนายอีวาน วัลเซฟ อายุ 50 ปี สัญชาติบัลแกเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.3056/2568 ลง 26 พ.ค.68

จากการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหา พบสายรับส่งข้อมูลที่ถูกขโมยไป รวมทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อ ว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอยู่ภายใน จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานทาง ดิจิทัลต่อไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครอง บุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อการหลบหนีหรือการพาทรัพย์นั้นไป ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วย วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

กระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ โดยเป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะของทางธนาคารไปโดยทุจริตและเป็นการเข้าถึงโดยมิชอบซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและ มาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การภาคเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า อุปกรณ์ที่พบภายในบ้านเป็นของตัวเองจริงและตัวเองมีหน้าที่แค่เปิดตู้ATM เพียงเท่านั้น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำผิด และอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น