xs
xsm
sm
md
lg

"สว.อุปกิต" รอดคุก! ศาลยกฟ้องทุกข้อหา ไม่เกี่ยวคดียาเสพติด ฟอกเงิน อาชญากรข้ามชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



             "สว.อุปกิต" รอดคุก! ศาลยกฟ้องทุกข้อหา ไม่เกี่ยวคดียาเสพติด ฟอกเงิน อาชญากรข้ามชาติ  ชี้เป็นการโอนเงินชำระค่าซื้อไฟฟ้าแม่สาย ผ่านโต๊ะแลกเปลี่ยนเงินฝั่งพม่า ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ต้องปิดด่านชายแดนเท่านั้น    

เมื่อวันนี้ (28 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ย.1445/2566 ที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายอุปกิต ปาจารียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นจำเลยในข้อหาเป็น สมาชิกวุฒิสภาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน,เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติสนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดรวม 6 ฐานความผิด

ประกอบด้วย 1.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด 2.ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน 4.เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน 5.เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำผิดร้ายแรงและ 6. มีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

จากคดีที่ นายอุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติดและการฟอกเงินกับ นายทุนมินลัต ชาวเมียนมา ที่ถูกตำรวจไทยจับกรณีเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และฟอกเงิน เมื่อ 17 ก.ย.2565 ซึ่งอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสอบสวนคดีนอกราชฯ ได้มีคำสั่งตั้ง นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีสอบสวน และคณะอัยการสำนักงานคดีสอบสวนร่วมสอบสวน และนำสำนวนส่งไปยังสำนักงานอัยการคดียาเสพติด เพื่อนำเสนอส่งอัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดี โดยอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมีความเห็นสั่งฟ้อง

ทั้งนี้ นายอุปกิต ปาจรียางกูร จำเลย ได้รับอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณา โดยมีหลักทรัพย์ประกันเป็นจำนวน 10,000,000 บาท พร้อม กำหนดเงื่อนไข มีคำสั่งห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

ช่วงเช้าวันนี้ นายอุปกิต ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด

 ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษายกฟ้อง นายอุปกิต ว่าไม่ได้กระทำผิดฐานร่วมสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน มีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด สืบเนื่องจากคดีที่พนักงานสอบสวนทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ค้ายาเสพติดและโอนเงินผ่าน 22 บัญชี แต่จากพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฎว่านายอุปกิต มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวในการสมคบกันเพื่อค้ายาเสพติด โดยจากพยานหลักฐานพบว่าเป็นการทำธุรกิจซื้อขายไฟฟ้าระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยโอนเงินชำระค่าไฟฟ้ามูลค่าเดือนละประมาณ 30 ล้านบาท จากโต๊ะแลกเปลี่ยนเงินชะเวชิงโกของฝั่งพม่า โดยชำระให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดชายแดนจากสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 เท่านั้น และจำเลยไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับบัญชีการโอนเงินดังกล่าวแต่อย่างใด   

ต่อมานายอุปกิตให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวว่า ทนายความเราสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมดก็ตั้งศาลพิพากษายกฟ้องทางด้านกฎหมายตนได้รับความเป็นธรรม ตนต้องได้รับความผิดจากการถูกกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา ทำให้ตนทุกข์ทรมานใจมานาน 3 ปี ในสิ่งที่ตนไม่ได้ทำผิด การอภิปรายของนายรังสิมันต์ นำพยานหลักฐานเท็จทั้งหมดมาพูดต่อพยานหลักฐานการสืบสวนของ พ.ต.ท.มานะพงศ์ มาจัดการตน ตนมั่นใจว่ากรรมจะตามสนอง เพราะมีหลายคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้ และประชาชนสามารถเห็นได้ว่าแม้กระทั่งผู้สมัครผู้ที่เกี่ยวข้องกับพรรคเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง มีเรื่องละเมิดทางเพศ มีอิทธิพล มาอ้างว่าทำการเมืองใหม่แต่จริงๆ แล้วแย่มาก เมื่อผลคำพิพากษายกฟ้องในวันนี้ตนจะขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมคืนมาจะขอยื่นฟ้องกลับถ้าคดีนี้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน

นายอุปกิต กล่าวอีกว่า ตนขอมอบตำแหน่งและคำกล่าวที่กล่าวหาตนว่าเป็น ส.ว.ทรงเอ คืนให้นายรังสิมันต์ และพรรคประชาชนที่เจ้าตัวสังกัดอยู่ แม้ว่าการพิพากษาวันนี้เป็นเพียงแค่ศาลชั้นต้น แต่ก็ทำให้เห็นข้อเท็จจริงแล้วว่าไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันเลย ยืนยันว่าเป็นเรื่องการชำระเงินนั้นเป็นการจ่ายค่าไฟฟ้าในช่วงที่ปิดชายแดนไทย-พม่า จากสถานการณ์โควิด-19 เท่านั้น หลังจากนี้ก็จะดูต่ออีกว่าฝ่ายอัยการจะอุทรณ์คำร้องหรือไม่

เมื่อถามว่าความสัมพันธ์กับนาย ทุน มิน หลัด เป็นอย่างไร นายอุปกิต กล่าวว่า ตนกับนายทุน มิน หลัด รู้จักกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว สมัยพ่อของนายทุน มิน หลัด เป็นอธิบดีท่องเที่ยว ได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศพม่า และหลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว และตนก็เชื่อว่านายทุน มิน หลัดเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ด้วย ทั้งนี้ตนอยากฝากไปถึงนายรังสิมันต์ด้วยว่า การเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่จะมีวาทกรรมที่พูดไปเรื่อยไม่ได้ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย 
กำลังโหลดความคิดเห็น