“หมอวรงค์”มาศาลอาญาสอบคำให้การคดี“ทักษิณ”อดีตนายกฯฟ้องปมปูดถุงขนม แลกคดีหมิ่นเบื้องสูง เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน แต่ปรากฎว่าทนายความยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่ประทับฟ้อง 4 กรรมในชั้นไต่สวน จึงนัดสอบคำให้การไป 24 พ.ย.นี้
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (26 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 806 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การคดีหมายเลขดำ อ.1961/2567 ที่ ทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความยื่นฟ้อง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาฯ
โจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 11-15 มิ.ย. 2567 จำเลยได้โพสต์ข้อความหลายข้อความลงในเฟซบุ๊กของจำเลย โดยหมิ่นประมาท ใส่ร้ายโจทก์ให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำนองว่า โจทก์เป็นคนยิ่งแก่ยิ่งเลอะ หรือเฒ่าสารพัดพิษ ซึ่งมีความหมายว่า เป็นคนมีอายุมากที่มีเล่ห์เหลี่ยมอันตรายรอบตัว เป็นคนขี้โกง บุคคลอื่นต้องระวังตัวไม่ควรคบหา ใช้เล่ห์เหลี่ยมการยื่นร้องขอความเป็นธรรมคดีหมิ่นเบื้องสูง มาตรา 112 ถุงขนม 2,000 ล้านภาค 2 เพื่อวิ่งเต้นให้ได้รับการประกันตัวและข้อความอื่น รวมทั้งหมด5 กรรม แต่ศาลอาญามีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้1 กรรม ส่วนอีก 4 กรรมศาลไม่ประทับรับฟ้อง เพราะเห็นว่าไม่ยืนยันข้อเท็จจริง
ในช่วงเช้าวันนี้ นพ.วรงค์ เดินทางมาศาลตามนัดพร้อมทนายความ
ภายหลังนพ.วรงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า มารับทราบคดีที่นายทักษิณยื่นฟ้องตนเอง 5 กระทงและเรียกชดใช้มูลค่า 100 ล้านบาท แต่เนื่องจากคดีนี้ศาลไต่สวนมูลฟ้องเสร็จแล้ว ศาลมีคำสั่งยกฟ้องไปรวม 4 กระทง จากทั้งหมด 5 กระทง ขณะที่วันนี้ นายทักษิณให้ทนายความยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องไปในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง 4 กระทง ดังนั้นวันนี้จึงยังไม่ได้พิจารณาคดี ต้องดูว่าศาลจะพิจารณาว่าอย่างไร
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า ขอฝากข้อความไปถึง นายทักษิณ,น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี,น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าการที่นายทักษิณฟ้องตน แสดงว่านายทักษิณต้องเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้นในคดีอื่นๆที่กำลังถูกพิจารณา เช่นในคดีศาลฎีกานักการเมืองวันที่ 13 มิ.ย.นี่ หรือคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พวกคุณก็ต้องเคารพในกระบวนการยุติธรรมถึงจะแฟร์โดยเฉพาะกับ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่ต้องเคารพกฎหมายอย่างที่สุด ถ้าจำได้ 2-3 วันที่ผ่านมา ที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา แล้วน.ส.แพทองธาร โพสต์ว่าความยุติธรรมถูกปล้น แต่วันนี้คุณพ่อของคุณฟ้องตน แสดงว่าพ่อคุณเคารพกระบวนการยุติธรรม เวลาเสียประโยชน์ กลับไปโพสต์ว่าความยุติธรรมถูกปล้นอย่างนี้มันไม่แฟร์กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่
นพ.วรงค์ กล่าวว่าหากเราได้ติดตามข่าวสารจะเห็นว่า ศาลฎีกาฯได้เชิญทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นโจทก์ จำเลย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นสิ่งที่น่าลุ้น ซึ่งตนได้คุยกับผู้มีประสบการณ์ด้านการไต่สวน ว่าศาลมองเรื่องของข้อกฎหมายข้อเท็จจริงแล้ว อาจจะดำเนินการไต่สวนตอนเช้าแล้วมีการตัดสินตอนบ่ายเลยก็ได้ เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องลุ้น และตามหลักการแล้วมองว่านายทักษิณควรจะต้องไป เพราะมีการเอาหมายไปติดที่หน้าบ้าน ทั้งโจทก์และจำเลยอยู่แล้ว เมื่อคุณเป็นจำเลยคุณก็ต้องไป แต่ก็มีนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายๆคน เทน้ำหนักไปว่านายทักษิณจะไม่ไป
เมื่อถามถึงกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีการนำข้าวไปขายและจะนำเงินมาใช้หนี้ให้แทนนั้นมีความเห็นว่าอย่างไร
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างให้ชาวบ้านได้เข้าใจ สมมุติว่า มีส้ม 2 เข่ง 1 เข่ง แล้วลูกน้องแอบเอาไปขาย แน่นอนว่าลูกน้องต้องชดใช้หนี้ ไม่ใช่ การเอาส้มเข่งที่เหลือ มาขายเพื่อใช้หนี้ในสิ่งที่ลูกน้องทำผิดก็เหมือนกันกับเรื่องข้าว ถ้าเราแบ่งข้าวเป็น 2 กอง กองนึงเป็นข้าวที่เหลือที่รัฐบาลนำมาขาย เพื่อไปใช้หนี้ต้นทุน อีกกองนึงไปขายข้าวแบบจีทูจี แต่ศาลจะให้คุณรับผิดชอบเฉพาะเรื่องข้าวจีทูจี ดังนั้นส่วนที่มีการโกง ศาลบอกให้รับผิดชอบก็ควรจะจบตรงนี้ ไม่มีสิทธิ์เอาข้าวที่เหลือไปขายเพื่อมาใช้หนี้แทนคุณยิ่งลักษณ์ ดังนั้นการจะเอาข้าวมาขายได้ ต้องเอามาใช้หนี้แทนภาษีของประชาชนที่คุณเป็นหนี้อยู่หลายแสนล้านบาทเท่านั้น
“อธิบายให้เด็กป.4 ฟังยังเข้าใจว่า ตรรกะคุณมันทำไม่ได้ ฟังไม่ขึ้น เป็นการหลอกลวงประชาชนที่ไม่ได้ตามข่าวสาร เอาข้อมูลมาพูดให้คนสับสนทั้งที่ศาลบอกชัดเจนว่า สิ่งที่พวกคุณโกงคุณต้องมาใช้หนี้ แล้วส่วนที่เหลือก็ขายเพื่อมาใช้หนี้เงินต้น ที่เราใช้ไป 8 แสนเจ็ดหมื่นพันกว่าล้าน”นพ.วรงค์ระบุ
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับคำพิพากษาศาลปกครอง ที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะยื่นสู้คดีใหม่ เพื่อจะให้หักหนี้ในส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยขายได้กับหนี้ที่ต้องจ่ายคืน
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ถ้าเป็นข้อมูลที่สัมพันธ์กันยังพอฟังขึ้น ที่เกี่ยวข้องกับจีทูจีแต่จะเอาของที่ค้างไว้มาใช้หนี้ ตนมองว่าถ้าเป็นการเสนอข้อมูลใหม่ควรจะเป็นฝ่ายรัฐบาล คือ ข้าวจีทูจี อีก 4 สัญญาใหม่ คือสัญญาที่ 6-8 อีกจำนวน 14 ล้านตัน เรื่องนี้ยังเงียบอยู่ ถ้ากระทรวงการคลังต้องการจะเอาเพิ่ม ควรเอาสัญญาดังกล่าวไปร้องเรื่องนี้และเรียกชดใช้จากการโกงกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพิ่ม แต่สิ่งที่ทนายความอ้างมาเป็นข้อมูลมั่ว เพราะข้าวที่เหลือต้องไปชดใช้ต้นทุนไม่ใช่มาชดใช้แทนคนโกง
ส่วนประเด็นเรื่องหากจะต้องยึดอายัดทรัพย์นั้น ตนไม่ทราบรายละเอียดเพราะขนาดทนายความคุณยิ่งลักษณ์เองก็ยังตอบไม่ได้ว่าตอนนี้คุณยิ่งลักษณ์มีทรัพย์สินทั้งหมดจำนวนเท่าใด แต่เห็นว่ามีประมาณ 30 รายการ ควรต้องเรียกหามาเติมเพราะคาดว่า
ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีเพียงแค่หลักร้อยล้านบาทและไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทรัพย์สินจริงจะเหลือเท่าไหร่ แล้วจะต้องกันส่วนหนึ่งไว้คืนให้สามี(สินสมรส) ตามที่ศาลกำหนดไว้ด้วย ตรงนี้เป็นเหตุผลที่ถือว่าเรารับได้ ดังนั้นนะจึงต้องมีการหาทรัพย์สินมาเติมไม่ใช่เอาไปคืน ซึ่งประเด็นการยึดทรัพย์นั้นเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม หลังจากศาลปกครองสูงสุด ซึ่งมีคำวินิจฉัย ถือว่าสิ้นสุดแล้ว แต่ถ้าคุณยิ่งลักษณ์มีเงินไม่พอก็ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ศาลเลื่อนไปนัดสอบคำให้การอีกครั้ง วันที่ 24 พ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.