xs
xsm
sm
md
lg

"อ.ปานเทพ" เผยจะพิสูจน์ความจริง มีเจ้าหน้าที่รัฐบิดเบือน คดี"แตงโม" ตกเรือกลางเจ้าพระยาหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



"อ.ปานเทพ" ลั่นภาคประชาชนจะเดินหน้าค้นหาความจริง ประเด็นมีเจ้าหน้าที่รัฐ บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม คดี"แตงโม" ตกเรือสปีดโบท กลางแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่  

วันนี้ (25 พ.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงคดีการเสียชีวิตของน.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงศ์ หรือ "แตงโม" อดีตนักแสดงสาว ซึ่งศาลจังหวัดนนทบุรีเพิ่งมีคำพิพากษาเมื่อวันศุกร์ที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ว่า ตนได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็มในคดีนี้ จนกระทั่งทบทวนแล้วก็เห็นว่าน่าจะนำเสนอเป็นส่วนหนึ่งในการสรุปให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่า หลังจากศาลมีคำพิพากษามาแล้ว เราจะเดินหน้าคดีนี้อย่างไร โดยภาพรวมแล้วในภาคประชาชนที่ได้ดำเนินคดีไปทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ในข้อหาว่ามีเจ้าหน้าที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรม หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อช่วยเหลือคนบนเรือหรือไม่ นี่คือเป้าหมายหลัก ที่เราสนใจกระบวนการมากกว่าผลลัพธ์ของคดีคำพิพากษา ในกระบวนการเหล่านี้เราเห็นชัดเจนว่า โจทก์และจำเลยไม่ปฏิเสธเรื่องสาเหตุการตายของคุณแตงโม ว่าเป็นการเดินไปที่ท้ายเรือแล้วปัสสาวะตกเรือเสียชีวิตแล้วโดนใบพัดเรือ ทั้งโจทก์และจำเลยไม่มีใครคัดค้านประเด็นนี้ ทิศทางก็เลยทำให้ศาลพิพากษาได้เฉพาะคดีประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายประเด็นเดียว

แล้วประมาทก็ต้องแปลว่าไม่เจตนา ถ้าประมาทก็ทำได้เฉพาะคนที่มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการเดินเรือน่านน้ำทะเลไทย หมายถึงว่าลงโทษได้เฉพาะคนขับเรือหรือควบคุมเรือเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับผู้โดยสารบนเรือ ศาลท่านก็เห็นว่าเป็นเหตุผลให้ยกฟ้องข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในคดีนี้ไม่มีสิ่งที่เราร้องขอหลายเรื่อง แสดงว่าตั้งแต่ตำรวจ อัยการอาจจะไม่ได้นำเสนอเข้าสู่ในชั้นศาลหลายประเด็น แต่โดยรวมก็เพื่อทำให้ข้อหาที่ว่ามีการประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นกระดุมเม็ดแรก ที่ทำให้ทางตำรวจตัดสินใจเดินหน้าคดีนี้ ซึ่งพวกเรายังไม่เห็นด้วย เนื่องจากมีประเด็นข้อพิรุธมากมาย มีการตัดพยานหลายปากที่อาจจะไม่ได้เห็นว่าเป็นการประมาท แต่อาจจะเป็นเจตนาอย่างอื่น ซึ่งตนได้นำเสนอภาพรวมในเวทีเสวนาความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568 ว่าทำไมคดีจึงมาถึงวันนี้ได้ ใครโดนข้อหาอะไร และศาลพิพากษาว่าอย่างไร เพราะอะไร ซึ่งตนเองได้มีเวลาพูดนาน 45 นาที ใน 2 หัวข้อ โดยจะพูดถึงเรื่องคดีแตงโมด้วย โดยรวมเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชนที่กำลังสงสัยอยู่แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจะต้องดำเนินการตรวจสอบอยู่แล้วว่ามีการบิดเบือนคดี ในกระบวนการยุติธรรมให้กับคนบนเรือหรือไม่ ยิ่งยกฟ้อง ยิ่งทำให้เราต้องสนใจมากขึ้นในคำตอบที่แท้จริงว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ เชื่อว่าวันอังคารที่ 27 พ.ค.นี้ ภายหลังได้คุยกับคุณ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยิ่งอ่านก็ยิ่งมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าในเรื่องที่ไปยื่นไว้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้ ชัดเจนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวางกรอบไว้ไหมว่าหลังจากนี้จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลและจำลองเหตุการณ์ในคดีนี้อย่างไร

นายปานเทพ กล่าวว่า เรายังไม่ได้มีการคุยกัน หลายคนก็รอจังหวะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะทำการลงสำรวจเพิ่มเติม ซึ่งเราอาจจะใช้วัน เวลาเดียวกันเพื่อลดงบประมาณในการใช้จ่าย ทำให้สามารถทดสอบหลายๆอย่างในคราวเดียวกัน แต่ว่าสาระสำคัญก็ยังคงเป็นประเด็นเดิม ที่ภาคประชาชนสนใจและมันเปลี่ยนไม่ได้แล้ว ก็คือบาดแผลที่เกิดขึ้นกับขาขวาด้านในของคุณแตงโม ที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงเลยในคำพิพากษาฉบับนี้ ก็แปลว่าทั้งโจทก์และจำเลยไม่ได้ติดใจ แต่พวกเราติดใจ หรือแม้กระทั่งรูปถ่ายที่คุณอัจฉริยะ ชนะคดีหมิ่นประมาทในเวลาเดียวกัน นับได้ 5 คน สำหรับในคดีหลักนี้ที่มีอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ซึ่งทั้งโจทก์และจำเลยไม่ได้มีใครคัดค้าน เห็นพ้องต้องกันว่า เวลา 22.32 นาฬิกา คืนวันเกิดเหตุมีคนบนเรือ 6 คน แสดงว่าต้องมีข้อเท็จจริงอันใดอันหนึ่งเป็นเท็จ และก็ไม่ควรรับฟังใครเพียงแค่ปากใดปากหนึ่ง จะต้องพิสูจน์ด้วยนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ดังนั้นเราก็เห็นรายละเอียดเนื้อหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคำพิพากษาฉบับเต็ม แล้วก็มีความมั่นใจว่ามีหลายประเด็นที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ ไม่ได้อยู่ในการพิจารณาในชั้นอัยการ หรือ ตำรวจ ซึ่งก็อาจจะมีการตัดทิ้งในประเด็นที่เราสงสัย

เมื่อถามว่ามีประชาชนบางส่วนสงสัยว่า คดีแตงโมนี้ศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว ยังจะเดินหน้าต่ออีกหรอ

นายปานเทพ กล่าวว่า พวกผมไม่ได้เป็นโจทก์และจำเลยในคดีนี้ ไม่ได้เป็นทนายความด้วย ความสามารถในการสู้คดีและเนื้อหาเป็นเรื่องของโจทก์และจำเลย ผลคำพิพากษาเป็นอย่างไรต้องไปสอบถามคนที่เป็นฝ่ายโจทก์และจำเลย ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้อง นั่นเป็นหนึ่งประเด็น พวกผมไม่ได้ทำประเด็นนี้เพียงแต่สงสัยว่ากระบวนการยุติธรรมมีการบิดเบือนไหม ก่อนคดีจะไปถึงศาล เราก็จะไปดูที่ประเด็นนั้น และเสาะแสวงหาความจริง เพื่อไปย้อนกลับประเด็นไปตั้งแต่แรกว่ามีการช่วยเหลือกันไหม นั่นคือประเด็นหลักของพวกเรา ดังนั้นเราไม่ได้สนใจว่าผลลัพธ์ของคดีแตงโมนี้เป็นอย่างไร เพราะเป็นเรื่องของโจทก์และจำเลย ที่พวกเราไม่อาจจะก้าวล่วงไปได้ แต่เราจะรู้ว่าเขาเต็มใจสู้กับประเด็นที่เราสงสัยอยู่หรือเปล่า หรือว่าไม่ต่อสู้เลย ก็ดูได้จากคำพิพากษา

เมื่อถามว่า คดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม นั้น ทางแม่ของคุณแตงโมบอกว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์แล้ว มีความเห็นอย่างไร
นายปานเทพ กล่าวว่า พวกผมไม่เชื่อต้องแต่แรกแล้วว่า เป็นเรื่องคดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ดังนั้นตั้งแต่ต้นธาร หรือต้นน้ำของคดีนี้พวกเรามีข้อสงสัยอยู่แล้ว เมื่อไม่เชื่อเช่นนั้นแล้ว การที่ศาลพิพากษายกฟ้องในข้อหาประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เราก็ไม่ได้แปลกใจเพราะพยานหลักฐานเป็นไปตามการสู้คดีของโจทก์และจำเลย ดังนั้นการจะอุทธรณ์หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของคุณแม่แตงโม เราไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เพราะไม่ใช่ทนายความของคุณแม่แตงโม ผลงานที่เกิดขึ้นของคดีนี้จึงเป็นผลงานของอัยการกับทนายความแม่แตงโมทั้งนั้น ที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง พวกเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เราสงสัยกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาว่า มีความผิดปกติหรือไม่ เรามีความสนใจประเด็นนี้และก็จะเจาะประเด็นนี้ให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องการเรียกพยานบุคคลมาให้ข้อมูลนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายอยู่แล้ว เชื่อว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความกระตือรือร้นที่จะดำเนินการคดีนี้ต่อไปแล้วก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นทำนองนี้ ที่ในที่สุดคำพิพากษายกฟ้องคนบนเรือ และลงโทษสถานเบาเพียง 1 ราย ก็คาดไว้อยู่แล้ว เพราะยื่นฟ้องข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเราเห็นข้อพิรุธมากกว่านั้น จึงจะต้องพิสูจน์กันต่อไป

@thaicrimeonline "อ.ปานเทพ" เผยได้รับคำพิพากษาคดี "แตงโม" ฉบับเต็มแล้ว มั่นใจดีเอสไอ เร่งดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ♬ เสียงต้นฉบับ - thaicrimeonline

กำลังโหลดความคิดเห็น