xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.เซ็นตั้ง "พล.ต.อ.ธนายุตม์" หัวหน้าพงส.ลุยสางคดี "สจ.กอล์ฟ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผบ.ตร.เซ็นคำสั่งตั้ง “พล.ต.อ.ธนายุตม์” เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คดี "สจ.กอล์ฟ" กับพวกรุมทำร้ายตชด.คาหน่วยเลือกตั้งสท.สงขลา จัดทีม 4 นายพลมือดีลุยสางคดี ย้ำให้เอาผิดทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 287/2568 เรื่อง แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน

ใจความว่า ด้วยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 13.25 น. นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ กอล์ฟ กับพวก รวม 7 คน ผู้ต้องหา สมคบและร่วมกันทำร้ายร่างกาย ดาบตำรวจ นิสาธิต คงเทพ บังคับหมู่ ป้องกันปราบปราม ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติความปลอดภัยหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นเทศบาลตำบลพลพะวง ประจำที่เลือกตั้งหน่วยเลือกตั้งที่ 7 เขตเลือกตั้งที่ 1 ตั้งอยู่ที่ใต้อาคาร 2 ภายในโรงเรียนนวมินทราชูทิศทักษิณ หมู่ที่ 2 ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 513/2568 ในความผิดฐาน "ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่เพราะเหตุหรือได้กระทำตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหยใช้อาวุธ และร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป และเป็นซ่องโจร" ต่อมาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีบันทึกสั่งการ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 อนุญาตให้โอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาให้กองบังคับการปราบปรามทำการสอบสวนฝ่ายเดียว ซึ่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 5/2568

เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจประกอบกับผู้ต้องหาเป็นผู้อิทธิพลในพื้นที่และมีลักษณะเป็นการก่ออาชญากรรมในรูปของขบวนการ หรือ กลุ่มบุคคล ก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างร้ายแรง และมีพยานหลักฐานที่จะต้องรวบรวมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การสืบสวนพยานหลักฐาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเกิดความเป็นธรรม อาศัยมาตรา 63(4) แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ประกอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 19/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาการทำการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัด การสอบสวนคดีอาญา บทที่ 4 ข้อ 2.5.4 จึงแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อรับผิดชอบทำการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาที่ 5/2568 ของ กองคับการปราบปราม รวมทั้งคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกันที่หากทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอันเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ หัวหน้าและรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้

พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปราม เป็นเลขานุการ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

พร้อมด้วยรายชื่อพนักงานสอบสวน ปรากฏตาม ผนวก ก แนบท้ายคำสั่งรายชื่อพนักงานสืบสวน ปรากฏตาม ผนวก 4 แนบท้ายคำสั่งให้หัวหน้า รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสาข และพนักงานสอบสวนตาม ผนวก ก มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ทำการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาในความผิดดังกล่าว รวมทั้งคดีอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และหากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิด หรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกัน ก็ให้มีอำนาจสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดนั้น ๆ แล้วรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ

กำหนดแนวทางการสอบสวนให้ครอบคลุม ครบถ้วน ตามพฤติการณ์แห่งคดีและองค์ประกอบความผิด เพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความผิดและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผู้ใช้ ตัวการ และผู้สนับสนุน ในการกระทำความผิดให้ครบถ้วน

ให้หัวหน้า รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน และพนักงานสืบสวน มีอำนาจหน้าที่ ทำการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ เพื่อทราบรายละเอียดแห่งความผิดของบุคคล กลุ่มบุคคล และเครือข่ายอาชญากรรมในกรณีดังกล่าว ขอข้อมูล เอกสาร จากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการสืบสวน
นำพยานหลักฐานที่ได้จากการสืบสวน สนับสนุนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ รายงานผลการดำเนินการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทราบทุกระยะอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง คำสั่งนี้เป็นการมอบหมายอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบนอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติ ซึ่งข้าราชการตำรวจยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการในหน่วยงานของตนโดยมีหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งนี้ เป็นผู้ควบคุม กำกับดูแล และบริหารจัดการ การปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการในตำแหน่งของข้าราชการตำรวจดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
กำลังโหลดความคิดเห็น