ตำรวจปคม.จับแก๊ง Sex Creator LGBTQ ลวงเด็กชายบ้านแตกค้ากาม บังคับใส่ชุดนักเรียนทำคอนเทนต์ลามก โพสต์ขายกลุ่มลับ เผยวางแผนหนีไปทำงานนวดที่โอมาน แต่วีซ่าไม่ผ่านเพราะติดหนองใน
วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม.สั่งการ พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม.พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม.นำกำลังจับกุม นายอชิรวัตติ์ อายุ 31 ปี นายสุทธิเจตน์ อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลอาญาข้อหา "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ฯ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ" และจับกุมนายพงศ์พล อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา "ค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี และกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีฯ" ได้ในพื้นที่ กทม. ,ชลบุรี และนครปฐม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ของกลุ่ม LGBTQ จนสนิทสนมกัน เนื่องจากมีรสนิยมร่วมเพศแบบชายรักชาย ก่อนจะวางแผนแบ่งหน้าที่ โดยให้ นายพงศ์พล ไปหลอกล่อเด็กชายอายุระหว่าง 12-14 ปี ที่มาจากครอบครัวแตกแยกใน จ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง และชักชวนให้มาพักอาศัยอยู่ที่รีสอร์ทด้วยกัน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย จากนั้นก็เริ่มบีบบังคับให้เหยื่อออกไปขายบริการทางเพศให้กับนายอชิรวัตติ์ และ นายสุทธิเจตน์ หากไม่ทำตามก็จะข่มขู่ไล่ออกจากกลุ่ม ไม่มีใครคบเป็นเพื่อน รวมถึงไม่ให้พักอาศัยอยู่ด้วยกันอีกด้วย ถือเป็นการใช้สภาพความเปราะบางของเด็กที่ไม่มีที่พึ่งพิง มาเป็นเครื่องมือควบคุมและบีบบังคับ
นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่า นายพงศ์พล จะรับประโยชน์ค่านายหน้าจากการนำเหยื่อเด็กชายไปขายบริการทางเพศ โดยเหยื่อจะถูกส่งตัวไปถูกกระทำอนาจารตามรีสอร์ท ต่าง ๆ ในจ.นครปฐม โดยนายอชิรวัตติ์ และนายสุทธิเจตน์ยังทำหน้าที่เป็นนักแสดงกระทำอนาจารเด็กชายเพื่อสร้างคอนเทนต์ โดยบังคับให้เหยื่อสวมใส่ชุดนักเรียนระหว่างร่วมเพศ หากขัดขืนจะโดนหักค่าตัว จากนั้นนำคลิปไปประกาศเชิญชวนผู้สนใจบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก ให้เข้าไปดูคลิปในกลุ่มไลน์ลับ โดยเก็บค่าสมัครสมาชิก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จนกระทั่งสามารถออกหมาย และเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามทราบอีกด้วยว่าก่อนถูกจับกุม นายอชิรวัตติ์ และนายสุทธิเจตน์ ต่างรู้ว่ามีเหยื่อ 2 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว เกรงว่าจะถูกจับกุม จึงวางแผนเดินทางไปทำงานนวดยังประเทศโอมาน แต่ปรากฎว่านายอชิรวัตติ์นั้นตรวจพบว่าเป็นโรคซิฟิลิส ทำวีซ่าไม่ผ่าน ส่วน นายสุทธิเจตน์นั้นอยู่ระหว่างยื่นขอวีซ่า
สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงนำตัวส่ง พนักสอบสวน กก.3 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป