ตำรวจ ดส.จับกุม “เงาะ วัดตึก” ลักลอบขายปืนไทยประดิษฐ์-แบลงค์กัน ผ่านทางเฟซบุ๊ก
วันนี้ (23 พ.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.ดส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.ท.รชต พุ่มพันธุ์ม่วง สว.กก.ดส.บช.น. ร.ต.อ.กิตติกานต์ สินประกอบ รอง สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.ดส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายทนงศักดิ์ หรือเงาะ อายุ 45 ปี
ในข้อหา 1.จำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต
จากนายทะเบียนท้องที่ และ 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จับได้บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 21.10 น.
โดยก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอสงวนนาม) แจ้งว่า มีการโพสต์ขายอาวุธปืนและปืนแปลงค์กันแปลงสภาพผ่านทางกลุ่ม Facebook ชื่อ “ปืนไทยประดิษฐ์และแบงค์กันแปลง” สายลับเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการคอมเมนท์โพสต์ดังกล่าวไป จากนั้น ได้มีการแชทข้อความเพื่อติดต่อซื้อขายกันในชื่อ “ศิริศักดิ์ xxx”และผู้ขายในชื่อ โดยเสนอขายอาวุธปืนของกลาง ในราคา 60,000 บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) โดยผู้ขายตกลงส่งมอบอาวุธปืนผ่านขนส่งแฟลชเอ็กเพลส ภายในร้านสะดวกซื้อ สถานที่เกิดเหตุ ในระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมซึ่งได้แอบซุ่มดูอยู่ ได้สังเกตเห็นชายผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลัง นายทนงศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ลักษณะตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เดินถือตรงเข้าไปภายในร้านสะดวกซื้อดังกล่าว จึงได้ออกจากที่ซ่อนตัวและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอตรวจค้นสิ่งของภายในกล่องดังกล่าว
โดยก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจพบ อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลาง ถูกห่อด้วยเสื้อผ้าเก่า อยู่ภายในกล่องดังกล่าว โดยนายทนงศักดิ์ยอมรับว่า ของกลางดังกล่าวเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ติดต่อซื้อขายกันจริง และเตรียมเพื่อที่จะนำมาส่งมอบให้กับผู้ซื้อผ่านแฟลชเอ็กเพลส เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ที่บ้านพักของนายทนงศักดิ์ น่าจะมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายทนงศักดิ์ ไปยังบ้านพักบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งต่อนายทนงศักดิ์ว่า บ้านดังกล่าวมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจจะมีสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดซุกซ่อนอยู่ภายใน จึงได้ให้นายทนงศักดิ์ ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเป็นผู้นำการตรวจจค้น โดยนายทนงศักดิ์ฯ ได้ให้ความยินยอมและเป็นผู้นำในการตรวจค้นด้วยตนเอง และในระหว่างนั้นได้มีมารดาของนายทนงศักดิ์ฯ ซึ่งพักอาศัยอยู่บ้านติดกันได้ขอเข้าร่วมสังเกตการในการตรวจค้นด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับมายัง กก.ดส. เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่งสถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง จ.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป