อดีตผู้สมัคร สว. ยื่นฟ้อง"อนุทิน" ลั่นเดินหน้าเร้องยุบพรรค ไม่ถอนฟ้องแน่นอน ชี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำแหน่งใหญ่โตไม่ควรใช้คำพูดแบบนี้ ปัดไม่เคยต่อรอง การเลือก สว.
วันนี้ (23 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นางกุสุมาลวดี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และอดีตผู้สมัคร สว.เดินทางเข้ามายื่นฟ้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
นางกุสุมาลวดี อดีตผู้สมัคร สว. กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมายื่นฟ้องนายอนุทินในข้อหาหมิ่นประมาทจากกรณีที่นายอนุทินใช้คำพูดใส่ร้ายว่าตนเป็นคนกักขระ และนิสัยไม่ดีชอบพูดโกหก ตนดูส่วนนี้มาแล้วมองว่าเข้าข่ายความผิด การหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และตนจึงเห็นว่านายอนุทินมีความเป็นผู้ใหญ่รวมทั้งมีตำแหน่งเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ควรที่จะใช้คำพูดแบบนี้กับตน และไม่เป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องในฐานะที่เจ้าตัวดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ด้วย และด้วยความรู้สึกว่าจะต้องมีคนขึ้นมาปกป้องประชาธิปไตยและต่อต้านขบวนการที่ไม่ถูกต้อง เพราะหากปล่อยให้ส.ว.ทั้งหมดถูกครอบงำไม่ว่าจะเป็น ปปช. กกต. และองค์กรอิสระทั้ง 7 ถูกคนบางกลุ่มครอบงำ ประเทศของเราจะอยู่อย่างไร จึงเป็นหน้าที่ของตนที่เป็นพลเมืองคนหนึ่งเข้าร้องเรียนต่อ กกต.เพื่อขอให้ยุบพรรคการเมืองหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
นางกุสุมาลวดี กล่าวอีกว่า ตนอยากถามไปยังนายอนุทินว่า ตนทำผิดเรื่องใดทำไม่ไม่ไปแจ้งข้อกล่าวหาให้จบสิ้นกระบวนการก่อน ค่อยออกมาพูด ซึ่งการที่ออกมาบอกว่าร้ายตนนั้นไม่ใช่การติติงในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะแต่เป็นการพูดในเรื่องส่วนตัว นอกจากกนี้ยังมีลิ่วล้อของนายอนุทินเข้ามาด่าว่าตนอีก และตนขอยืนหยัดอยู่เคียงข้างสิ่งที่ถูกต้อง การพูดจาดูถูกตนแบบนั้นทำให้รู้สึกว่าครอบครัวของตนก็ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาจังหวัดมหาสารคาม การมากล่าวหาแบบนี้รวมถึงให้ลูกน้องมาขุดคุ้ยประวัติของตนนั้นถือว่าไม่ถูกต้อง ตนจึงอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะไม่มีการถอนฟ้องอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากนี้ภายหลังจากนี้ถ้าเกิดตนชนะคดีขึ้นมา ตนจะฟ้องแพ่งนายอนุทินและเรียกค่าเสียหายด้วยอย่างแน่นอน และหลังจากนี้จะมีการไปร้องเรียนเรื่องจริยะธรรมต่อที่สภาผู้แทนราษฎรอีกในวันนี้อีกด้วย
นางกุสุมาลวดี กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ พร้อมร่ำไห้น้ำตาไหล ว่า
“สิ่งที่เกิดขึ้นดิฉันนั้นไม่กลัวตาย แต่ก็ไม่อยากตายอย่างโดดเดี่ยว ก็มองว่าทุกคนคือคนไทยทำไมไม่ช่วยกัน ยอมรับว่ากังวลเพราะหลังจากยื่นขอให้ยุบพรรคก็มีคนเข้ามาบอก ว่าให้ส.ส. แมวระวังตัวนะว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราเล่นใหญ่ เกินตัวแต่ก็คิดว่าถ้าเราไม่ยืนขึ้นแล้วใครจะทำคนเก่งเยอะทั้งบ้านทั้งเมืองแต่คุณกล้าไม่มี ก็มองว่าทำไมต้องมารังแกและทำร้ายดิฉันในเมื่อเรามีความหวังดีต่อประเทศชาติ แล้วคุณเป็นถึงระดับรองนายกรัฐมนตรีทำไมออกมาพูดแบบนี้ มาว่าดิฉันกักขฬะ หาว่าดิฉันเป็นคนชอบโกหกซึ่งดิฉันมีความภูมิใจที่มีผู้ใหญ่เมตตา เนื่องจากดิฉันเป็นคนทำงานเพื่อประชาชนจริงๆ และไม่เคยโกหก ทำไมมารังแกกระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็อยากจะถามหาจริยธรรมของคนที่เป็นถึงรองนายกฯ “ นางกุสุมาลวดี กล่าวย้ำ
เมื่อถามว่าคำพูดที่นายอนุทินพูดนั้นถือว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่ ทนายความของนางกุสุมาลวดี กล่าวว่า ถ้อยคำที่ถูกบรรยายเอาไว้ว่าเข้าข่ายการกระทำผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น ยังไม่ได้บัญญัติคำว่า กักขฬะ เอาไว้ แต่มีคำพูดหนึ่งที่นายอนุทินใช้พูดถึงนางกุสุมาลวดีนั้น เป็นคนชอบโกหก พูดไม่จริงมานาน นั้นในฐานะที่นางกุสุมาลวดีเคยดำรงตำแหน่ง ส.ส.นั้นถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าประชาชนเชื่อตามคำพูดของนายอนุทินจะทำอย่างไร ซึ่งตนเข้าใจว่าคำพูดทั้งหมดเมื่อเอามารวมกันเข้าองค์ประกอบการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ในวันนี้หลังจากยื่นฟ้องไปแล้วจะต้องตรวจก่อนว่าถ้อยคำทั้งหมดนั้นมีส่วนไหนที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ไม่ว่าศาลจะตีความออกมาภายหลังว่าคำพูดนั้นเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย ตนก็ถือว่าได้ได้ทำหน้าที่ตรงส่วนนี้แล้วว่าคนเราอย่ามาด้อยค่าคนอื่น โดยหลังจากนี้ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค. 2568 เวลา 09.00 น.โดยวันนัดไต่สวนมูลฟ้องจะนำโจทย์ขึ้นไต่สวนรวมถึงจะขอนำสื่อมวลชนที่ลงข่าวที่จำเลยหมิ่นประมาทมาเบิกความเป็นพยานด้วย
เมื่อถามว่าคำพูดที่นายอนุทินพูดนั้นถือว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่
นายชาติอาทิตย์ ทัณฑรักษ์ ทนายความนางกุสุมาลวดี กล่าวว่า ถ้อยคำที่ถูกบรรยายเอาไว้ว่าเข้าข่ายการกระทำผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณานั้น ยังไม่ได้บัญญัติคำว่า กักขระเอาไว้ แต่มีคำพูดหนึ่งที่นายอนุทินใช้พูดถึงนางกุสุมาลวดีนั้น เป็นคนชอบโกหก พูดไม่จริงมานาน นั้น ในฐานะที่นางกุสุมาลวดีเคยดำรงตำแหน่ง ส.ส.นั้นถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ถ้าประชาชนเชื่อตามคำพูดของนายอนุทินจะทำอย่างไร ซึ่งตนเข้าใจว่าคำพูดทั้งหมดเมื่อเอามารวมกันเข้าองค์ประกอบการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ในวันนี้หลังจากยื่นฟ้องไปแล้วจะต้องตรวจก่อนว่าถ้อยคำทั้งหมดนั้นมีส่วนไหนที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ไม่ว่าศาลจะตีความออกมาภายหลังว่าคำพูดนั้นเข้าข่ายหรือไม่เข้าข่าย ตนก็ถือว่าได้ได้ทำหน้าที่ตรงส่วนนี้แล้วว่าคนเราอย่ามาด้อยค่าคนอื่น โดยหลังจากนี้ศาลจะนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งในวันที่ 21 ก.ค. 2568 เวลา 09.00 น.