xs
xsm
sm
md
lg

” วิเชียร“ นายกสภาทนายความ เตรียมลงสมัครเลือกตั้งสมัยที่ 2 สานต่อนโยบายเป็นที่พึ่งด้านกฎหมายแก่ประชาชนผู้เสียหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ
” วิเชียร“ นายกสภาทนายความ ประกาศลงชิงนายกสภาทนายความสมัยที่ 2 มุ่งให้เป็นที่พึ่งด้านกฎหมายของประชาชนผู้เสียหาย และช่วยเหลือด้านสวัสดิการให้ทนายความทั่วประเทศ 

วันนี้ (19 พ.ค.) ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายกสภาทนายความและกรรมการสภาทนายความได้ออกประกาศ ให้ผู้ที่มีความประสงค์รับสมัครเลือกตั้งนายกฯและกรรมการสภาทนายความในวาระบริหาร 2568 -2571 สามารถเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสภาทนายความเเละคณะกรรมการสภาทนายความได้ตั้งเเต่วันที่ 20 –26 พ.ค.2568 คาดว่าวันพรุ่งนี้ วันที่ 20 พ.ค.เวลา 08.30 น. ซึ่งเป็นวันเเรกของการรับสมัครจะมีผู้มาสมัครจำนวนหลายทีม และยอมรับว่าตนเเละคณะกรรมการบริหารชุดเดิม จะเดินทางไปสมัครลงเลือกตั้งในวันแรก เพื่อสมัครเป็นนายกสภาทนายความอีก 1 สมัย 

ทั้งนี้นายกและสภาสภาทนายความชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงในวันที่ 14 ก.ย.2568 ซึ่งตนและคณะก็ได้ตัดสินใจที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งอีกเป็นสมัยที่ 2 ของกรรมการชุดปัจจุบัน ซึ่งตามกฎหมายแล้วสามารถที่จะเป็นกรรมการบริหารสภาทนายความได้ 2 วาระติดต่อกัน จึงลงรับสมัครเลือกตั้งและคณะจะเดินทางไปที่ศูนย์เลือกตั้งนายกฯและคณะกรรมการสภาทนายความ ซึ่งตั้งอยู่ที่สภาทนายความ ถ.บางเขน โดยกำหนดวันลงคะแนนเลือกตั้งไว้วันที่ 24 ส.ค.2568 ที่สำนักงานสภาทนายความ ส่วนในต่างจังหวัดจะต้องไปเลือกตั้งตามศาลจังหวัดทั่วประเทศ

นายวิเชียร กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ลงสมัครอีกครั้ง เพราะว่าปัญหาของสภาทนายความหลายๆ ด้าน สะสมมาเป็นเวลาหลายปี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตนและคณะเข้าไปสะสางปัญหาเกือบเสร็จสิ้น แต่ก็ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่จะต้องดำเนินการต่อให้เป็นรูปธรรม จึงขออาสาเป็นตัวแทนของทนายความทั่วประเทศในการที่จะเข้าไปสะสางปัญหาที่ยังคงค้างอยู่ และสานต่อนโยบายดีๆ ที่เราได้ทำแล้วและต้องการความต่อเนื่องอีกวาระหนึ่ง

นอกจากนโยบายเดิมแล้วเรายังมีนโยบายใหม่เกี่ยวกับเรื่องระบบดิจิทัลต่างๆ ให้กับสภาทนายความ เพื่อนำมาใช้บริหารจัดการองค์กร ที่ผ่านมาเรามีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ จึงยังไม่อาจพัฒนาเรื่องระบบดิจิทัลที่จะให้บริการทั้งทนายความและประชาชนได้ จึงต้องเป็นนโยบายใหม่อีกครั้ง ส่วนเรื่องวิชาการที่ผ่านมาเรามีความโดดเด่นอยู่แล้ว ก็จะทำให้ต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความได้รับประโยชน์ และเพิ่มศักยภาพในการประกอบวิชาชีพทนายความ เพื่อไปอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน เช่นเดียวกันนโยบายด้านความช่วยเหลือประชาชนทางกฏหมาย ก็เป็นนโยบายที่โดดเด่นมาโดยตลอด เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เราได้ขับเคลื่อนให้องค์กรสภาทนายความเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างจริงจัง


นโยบายที่สำคัญอีกประการคือ เรื่องสวัสดิการของสภาทนายความที่จะต้องต่อยอดพัฒามากขึ้น เพื่อให้ทนายความทุกคนเข้าถึงด้านสวัสดิการ สภาทนายความต้องเป็นที่พึ่งของทนายความในทุกช่องทางอย่างทั่วถึง โดยการหาเงินเพิ่มเติม ซึ่ง 3 ปีที่ผ่านมา มีทิศทางที่ดีเพราะในปีแรกที่เราเข้ามาบริหารในปี 15 ก.ย.2565 งบการเงินของสภาทนายความติดลบอยู่ 26 ล้านบาท เมื่อผมกับคณะกรรมการเข้ามาบริหาร ปี 2566 งบประมาณของเราบวกอยู่ 4 ล้าน , ปี 2567 งบประมาณบวกอยู่ 7 ล้านบาท ทำให้เรามีโอกาสจ่ายเงินด้านสวัสดิการให้แก่ทนายความมากขึ้น ถ้าเราได้เข้ามาอีกรอบ เชื่อว่าแนวทางในการจัดหาเงินจะเพิ่มมากขึ้นทุกปี และจะนำไปสู่การช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่ทนายความไม่ว่าจะเป็นกรณีเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต หรือได้รับภัยภิบัติต่างๆเช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ พายุพัดต้นไม่ทับหลังคา ทรัพย์สินเสียหาย น้ำท่วมปีที่แล้วเราก็ช่วยเยอะ ปีนี้ก็คาดจะจะมีปัญหาน้ำท่วมอีก เราจะเอาเงินมาช่วยเหลือทนายความ ในส่วนนี้คณะกรรมการสภาทนายความจะต้องจัดหาเอง รัฐบาลไม่ได้สนับสนุน

อยากฝากถึงผู้ประกอบวิชาชีพทนายความทุกท่านให้ออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ขอให้ทุกท่านย้อนดูเเละพิสูจน์การทำงานของคณะกรรมการสภาทนายความชุดต่างๆ ที่ผ่านมากับชุดของตน ซึ่งกำลังจะหมดวาระได้กระทำการเพื่อสนองต่อนโยบายความต้องการของพี่น้องทนายความและประชาชนได้มากกว่าชุดอื่นหรือไม่ ขอให้ช่วยพิจารณาและให้โอกาสคณะของตนได้เข้ามาบริหารองค์กรอีกครั้ง ซึ่งการเข้ามาครั้งหน้าจะทำให้ปัญหาเก่าน้อยลง และมีกำลังขับเคลื่อนในเรื่องใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อองค์การวิชาชีพ
กำลังโหลดความคิดเห็น