ผบช.ไซเบอร์ ส่งมอบเงินกว่า 7 แสนบาท คืนผู้เสียหายเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นตำรวจหลอกให้โอนเงินตรวจสอบกว่า 1.3 ล้านบาท ตามรวบ 3 ผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีม้า ประสานธนาคารอายัดเงินคืนได้ทันบางส่วน
วันนี้ (15 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าว “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน EP.6” ตำรวจไซเบอร์รวบเครือข่ายปลอมเป็นตำรวจโทรขู่โอนเงินให้ตรวจสอบ งานไวอายัดทันกว่า 7 แสน นำคืนผู้เสียหาย
สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “Money Cash Back” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 6.8 ล้านบาท
โดยกรณีล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ม.ค.68 มีมิจฉาชีพโทรหาผู้เสียหายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ชื่อดัง แจ้งว่ามีผู้อื่นนำเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหายไปเปิดใช้งาน แล้วถูกนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน จากนั้น ยังได้มีมิจฉาชีพโทรหาอีกครั้ง อ้างว่าเป็นตำรวจ จาก สภ.เมืองตาก แจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด, การฟอกเงิน , และการรับจ้างเปิดบัญชีม้าจากนั้นได้ข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ตรวจสอบ มิเช่นนั้นจะโดนดำเนินคดี
เมื่อผู้เสียหายฟังเช่นนั้นจึงเกิดความกลัวเกิดและหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารปลายทาง จำนวน 3 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารของนายอภิรักษ์ จำนวน 700,508 บาท และ บัญชีธนาคารของนายวัทธพลและนายรุ่งศักดิ์ จำนวนบัญชีละ 300,000 บาท รวมสูญเงินไปทั้งสิ้น จำนวน 1,300,508 บาท
หลังจากผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว คนร้ายได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายไปรับเงินคืนที่ สภ.พานทอง จ.ชลบุรี แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึง กลับไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้อีกเลย จึงรู้ตัวว่าโดนหลอก และได้เข้าแจ้งความในเวลาต่อมาเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 สอท.2 ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย
โดยล่าสุด พ.ต.ท.ศราวุธ ตะดวงดี, พ.ต.ท.บุญเสริม อนุมาตรฉิมพลี, พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ศศิธร, และ พ.ต.ต.เชิดชัย ขวัญกิจรัถยา สว.กก.3 บก.สอท.2 ได้นำกำลังติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายอภิรักษ์ อายุ 40 ปี จับกุมตัวได้ที่หน้าบ้านไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายวัทธพล อายุ 50 ปีจับกุมตัวได้บริเวณตลาดบางใหญ่ซิตี้ ม.6 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีและนายรุ่งศักดิ์ อายุ 26 ปี จับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านพัก ในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ห้วยไผ่ อ.เมือง จ.ราชบุรีโดยดำเนินคดีในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนฐานฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาเพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช่ หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์ สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน”
จากกรณีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถประสานงานธนาคารเพื่ออายัดเงินในบัญชีธนาคารของนายอภิรักษ์ ไว้ได้เป็นจำนวนเงิน 700,508 บาท เบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่าได้ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชี โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่อายัดไว้ จึงขอไม่โต้แย้งในกรรมสิทธิ์และยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมอบเงินในบัญชีตามจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหายวันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดติดตามคดี จึงได้ร่วมกันนำเงินจำนวน 700,508 บาท มอบคืนให้กับผู้เสียหาย