ชายคลั่งยิงปืนในบ้านพักชุมชนหลังวัดลครทำ ย่านบางกอกน้อย ภรรยาผู้ก่อเหตุเผย มีปากเสียงทะเลาะกัน 4 วัน ไม่ได้หลับได้นอน สามีเสพยาตลอดจนเกิดอาการคุ้มคลั่ง
วันนี้ (15 พ.ค.) พ.ต.ต.มนูญ มนูญโตวงษ สวป.สน.บางกอกน้อย รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งจับตัวประกันยิงปืนขึ้นฟ้าภายใน ซอยวัดลครทำ แขวง บ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ โดยมี พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บชน. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอรินทราช ตำรวจ 191 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. บางกอกน้อย รุดมายังที่ยังที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในชุมชนหลังวัดลครทำ มีทางเข้าออกสามทาง โดยผู้ก่อเหตุได้ซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านสองชั้น ลักษณะเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้สองชั้น ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนประชาชนติดกันบริเวณกลางซอย ทราบชื่อนาย ชื่อ นายณัฐวัชต์ หรือเต้ อายุ 31 ปี โดยเมื่อช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา มีประชาชนแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน. บางกอกน้อย ว่ามีผู้ก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับเพื่อนบ้าน แล้วพยายามจะเข้ามาในบ้านผู้อื่น
จากนั้นตำรวจสายตรวจจึงได้เข้าตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุยืนอยู่บริเวณหน้าบ้าน บริเวณกลางซอย มีอาการผิดปกติ เอะอะโวยวายและรับแจ้งว่ามีอาวุธปืนไม่ทราบชนิด จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้น และเมื่อเวลาประมาณ 08.10 น. มีเสียงคล้ายอาวุธปืน เบื้องต้นมีคนอาศัยอยู่ในบ้าน 4 คน แต่อยู่บนบ้านชั้น 2 ล็อคห้องเรียบร้อยไม่ได้เป็นตัวประกัน ขณะที่ผู้ก่อเหตุอยู่ชั้นล่าง
นางสมใจ (นามสมมติ) ภรรยาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยระหว่างเดินทางที่จะไปรับลูกที่โรงเรียนกับตำรวจ ว่า ชายคลุ้มคลั่งเป็นสามีของตน และมีปากเสียงทะเลาะกันได้ประมาณ 4 วัน ซึ่งตัวสามีก็ไม่ได้หลับไม่ได้นอน ระหว่างนั้นสามียังได้มีการเสพยาเสพติด จึงเกิดอาการคลุ้มคลั่ง จากนั้นนางสาวสมใจ ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม และขอตัวนั่งรถจักรยานยนต์ของทางตำรวจไปรับตัวลูกที่โรงเรียน
ขณะเดียวกัน นายน้อย (นามสมมติ) ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ได้ให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวมาอาศัยอยู่ในชุมชนได้หลายปี ประกอบอาชีพค้ายาเสพติด และก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนกล้าที่จะเข้าไปยุ่ง เกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะตัวผู้ก่อเหตุนั้นมีอาวุธปืน ทุกวันที่ผ่านมาจะมีการเสพยาอยู่ตลอด อย่าง 6 วันที่ผ่านมาก็เสพยาไม่หลับไม่ได้นอน โดยช่วงเช้าตอนเกิดเหตุ ได้มีอาการคลั่งและยิงปืนขึ้นฟ้า และชาวบ้านได้แจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ระหว่างที่ชาวบ้านได้เข้าไปหาตัวผู้ก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ไม่รับอันตราย
ขณะเดียวกันชาวบ้านยังอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุและมีเพื่อนบ้านข้างเคียงก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านที่ติดกันไม่กล้าออกมาเกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงทำให้ไม่รู้ว่าสถานการณ์ภายในนั้นจะเป็นเช่นไร
ด้าน นายศิริชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี พ่อผู้ก่อเหตุ เดินทางมาปากซอยชุมชนวัดลครทำ กล่าวว่า นายเต้ มีลูกชาย 2 คน และเอาลูกชายไปฝากให้พ่อเลี้ยงดู 1 คน กำลังเข้าเรียนชั้น ป.1 ที่ผ่านมา นายเต้มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาโดยตลอด และเวลาที่เสพยาเสพติดก็มักจะมีปัญหากับภรรยา จนทำให้ที่ผ่านมาทั้งคู่เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันจนถึงขั้นลงมือทำร้ายร่างกาย แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุที่ถึงขั้นว่าเอาปืนออกมายิงกันแบบนี้
โดยนายเต้ ได้ออกจากบ้านมาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุตั้งแต่ อายุ 12 ซึ่ง เป็นบ้านของยาย แต่ยายเสียชีวิตไปแล้ว จึงทำให้ตนเองเริ่มห่างเหินกับลูกชาย จนนำไปสู่การตัดขาดการติดต่อกันตั้งแต่ตอนนั้นมา เนื่องจากตนเองรู้มาอยู่แล้วว่า นายเต้มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมาตั้งแต่ตอนนั้น และบ้านหลังที่นายเต้มาอาศัยอยู่ก็มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยกันทั้งบ้าน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเบื้องต้นตนเองทราบว่า นายเต้ได้ทะเลาะมีปากเสียงกับภรรยาอีกครั้ง สาเหตุมาจากการที่นายเต้เสพยาเสพติดแล้วเกิดอาการหลอนคิดว่าภรรยามีชายอื่น จึงทำให้เป็นต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น และติดใจสำหรับอาวุธปืนที่นายเต้มีไว้ติดตัวตนเองไม่ทราบว่าเอามาจากไหน
แต่ถ้าการเข้าระงับเหตุในครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากตัวของนายได้มีการยิงปืนออกมาต่อสู้ แล้วสุดท้ายจบด้วยการที่นายเต้ถูกตำรวจวิสามัญ ตนเองก็จะไม่ติดใจเอาเรื่องอะไรทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นสายเลือดเดียวกัน แต่ถ้าหากทำผิดก็ต้องว่าไปตามกฏหมายไม่เข้าข้างใคร ทั้งนี้ตนเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เขาเป็นลูกผมหรือไม่เพราะก่อนหน้านี้มันมีเหตุการณ์เยอะแยะมากมายภายในครอบครัวเกิดขึ้น