"อี้ แทนคุณ - ลิลลี่ เหงียน" พร้อมผู้เสียหาย บุก สตช. จี้ เร่งรัดคดี “เอิร์ก เลเดอเรอร์” หลอกเหยื่อสูญกว่า 500 ล้านบาท เรียกร้องล่าตัวข้ามประเทศ
วันนี้ (14 พ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย ลิลลี่ เหงียน และกลุ่มผู้เสียหาย เข้ายื่นหนังสือถึงพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อเร่งรัดคดีที่มีหมายจับนายองอาจ หรือ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ซึ่งหลอกลวงประชาชนได้รับความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท โดยคดีนี้ผ่านมานานร่วม 3 ปีแล้ว แต่ผู้ต้องหากลับยังลอยนวล
นายแทนคุณ กล่าวว่า การเข้ายื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งติดตามตัว นายองอาจ หรือ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ผู้เสียหายรวม กว่า 500 ล้าน ซึ่งถูกออกหมายจับและหลบหนีไปต่างประเทศ เพื่อดำเนินการประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทย และดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดพบว่า เอิร์ก เลเดอเรอร์ ยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการชักชวนให้ลงทุนเปิดคลินิก หลอกขายโทรศัพท์มือถือ หรือชักชวนให้ร่วมลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งยังมีประชาชนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่พบว่ามีการออกหมายแดงจากตำรวจสากล ถึงอยากให้มีการเร่งรัดคดีโดยเร็ว
"การปล่อยให้นายเอิร์ก เลเดอเรอร์ลอยนวลและยังคงมีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนต่อไปนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมเป็นวงกว้าง และเชื่อว่ายังมีเหยื่ออีกจำนวนมากที่ยังไม่กล้าออกมาเปิดเผย จึงจำเป็นต้องเร่งรัดดำเนินคดีให้ถึงที่สุด"นายแทนคุณ กล่าว
ด้าน ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ขอให้ตำรวจเร่งดำเนินการขอศาลออกหมายแดง และตามตัวมาดำเนินคดี เพราะตนเองยังเห็นผู้บริสุทธิ์หลายคนที่ยังหลงเชื่อผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี และมีการโพสต์ขายโทรศัพท์มือถือ iPhone ในราคาถูก และยังมีผู้บริสุทธิ์หลงเชื่อ และหลอกลงทุนคลินิก ซึ่งตนเองไม่อยากให้ประชาชนคนไทยหรือผู้บริสุทธิ์ ต้องถูกหลอกและโดนเหมือนกับตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดร้ายสำหรับตนเองและผู้เสียหายอีกหลายๆ คนที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวง จึงอยากวอนขอให้ตำรวจเร่งรับดำเนินคดีจับกุมโดยเร็ว
ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการหลอกลงทุนคลินิก พบว่านายเอิร์ก เลเดอเรออ์ ได้ใช้โซเชียลมีเดีย โพสต์สถานที่คลินิกแห่งหนึ่งและเชิญชวนลักษณะระดมทุนเพื่อทำคลินิก จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเหตุใดถึงมีการนำข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกมาโพสต์ ซึ่งอาจจะมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ อีกหลายราย และได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ผู้กระทำผิด กลับลอยนวลหลบหนีไปต่างประเทศ และยังคงโพสต์หลอกลวง และมาเย้ยหยันคนที่ได้รับความทุกข์ร้อนจากการกระทำดังกล่าว