xs
xsm
sm
md
lg

รวบแก๊งขายดอลลาร์ปลอม ยึดของกลาง 7 พันฉบับ มูลค่า 23 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ชุดสืบ บก.น.3 จับกุมแก๊งขายดอลลาร์สหรัฐปลอมกลางกรุง ขนจากฝั่งลาวเข้าไทย ยึดของกลาง 7 พันฉบับ มูลค่า 23 ล้านบาท

วันนี้ (9 พ.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.กก.สส.บกน.3 ได้สั่งการ พ.ต.ท.ธนาวินท์ กาญจนวิภาส รอง ผกก.สส.บก.น.3.พ.ต.ท.ศิรศักดิ์ ธนาวิทย์โยธิน สว.กก.สส.บก.น.3 และชุดสืบสวนปฏิบัติการที่ 4 กก.สส.บก.น.3 ร่วมกันจับกุม น.ส.นภาวัณณ์ อายุ 31 ปี นายการัณย์ อายุ 51 ปี และนายเชษฐา อายุ 52 ปี ข้อหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอม ซึ่งธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้ หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศ จับกุมบ้านหลังหนึ่ง ซอยสายไหม 74/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน ซ.สายไหม 65 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ(ดอลลาร์สหรัฐ) ชนิด 100 ดอลลาร์ 7,000 ฉบับ พบอยู่ในกระเป๋าผ้าสีดำ กระเป๋าผ้า ชนิดสะพายหลังสีดำ 1 ใบ รถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า 2 สีขาว คันทะเบียน 1กฬ 4525 กรุงเทพมหานคร 1 คัน

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.บกน.3 ได้รับแจ้งจากสายลับแจ้งว่า มีน.ส.ตาล ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 160 ซม. จะนำธนบัตรชนิดดอลลาร์สหรัฐปลอมมาจำหน่ายให้กับสายลับ โดยมีการนัดพบกันที่บ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยสายไหม 74/1 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร สถานที่เกิดเหตุ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ไปตรวจสอบและจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ปลอมตัวและรออยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวพร้อมกับสายลับ และอีกส่วนหนึ่งได้แอบซุ่มสังเกตการณ์อยู่ที่สถานีจ่ายน้ำมันบางจากฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านดังกล่าว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตเห็นนางสาวตาล ลงมาจากมาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฬ 4525 กรุงเทพมหานคร ตรงตามตำหนิรูปพรรณที่สายลับแจ้ง จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้นจับกุม พบ น.ส.นภาวัณณ์ ยืนอยู่ภายในบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยสายไหม 74/1 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร สถานที่เกิดเหตุ จากการตรวจค้นพบ ธนบัตรชนิดดอลลาร์สหรัฐจำนวน 7,000 ฉบับ มูลค่า 23 ล้านบาท อยู่ภายในกระเป๋าผ้าชนิดสะพายหลังสีดำ ที่น.ส.นภาวัณณ์ สะพายอยู่ จากการสอบสวนนางสาวนภาวัณณ์ ให้การว่า ตนได้นำธนบัตรชนิดดอลลาร์สหรัฐเพื่อมาจำหน่ายให้แก่สายลับ โดยตกลงจำหน่ายในราคาฉบับละ 350 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นรถยนต์ มาสด้า๒ หมายเลขทะเบียน 1กฬ 4525 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่หน้าบ้านสถานที่เกิดเหตุพบว่ามีนายการัณย์ (ทราบชื่อภายหลัง) อายุ 51 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า 2 สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฬ 4525 กรุงเทพมหานคร นำพาน.ส.นภาวัณณ์ มาส่งที่บ้านที่เกิดเหตุ

จากนั้นจากการสอบถามนายการัณย์ ให้การว่า ตนได้ขนส่งธนบัตรชนิดดอลลาร์สหรัฐของกลาง มาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านมาทางด่านพรมแดนจังหวัดหนองคาย เข้ามายังประเทศไทยโดยมีนายเชษฐา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า สับเปลี่ยนกันอีกคนเพื่อเดินทางนำธนบัตรชนิดดอลลาร์สหรัฐของกลางมาส่งให้กับน.ส.นภาวัณณ์ ซึ่งนายเชษฐาได้ไปนอนพักรอที่ รีสอร์ทในซ.สายไหม 84/4 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการตรวจค้นห้องพัก พบนายเชษฐาพักอาศัยอยู่ในห้องพักหลังดังกล่าวเพียงผู้เดียว จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาทำบันทึกจับกุมที่ กก.สส.บก.น.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ถูกจับพร้อมยึดของกลางทั้งหมด ส่ง สน.สายไหม เพื่อ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปศ


กำลังโหลดความคิดเห็น