ผอ.สปภ.กทม.เผยความคืบหน้ารื้อถอนซากตึก สตง.ถล่ม เร่งขนย้านเศษซากชั้นใต้ดินโซน B คาดว่าตะเจอผู้ติดค้างเพิ่มอีก ยืนยันส่งมอบคืนพื้นที่ให้ สตง.เป็นไปตามกรอบระยะเวลาเดิม
วันนี้ (7 พ.ค.) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (ผอ.สปภ.กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าในปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายและการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่พังถล่ม ว่า ขณะนี้เหลือพื้นที่ 3 จุดที่ยังมีความสงสัยว่าอาจจะพบร่างผู้ติดค้างเพิ่ม จากการเปรียบเทียบยอดผู้สูญหายที่ได้รับจากพนักงานสอบสวนขณะนี้ ยังคงเหลือผู้สูญหายอีก 12 คนที่อยู่ระหว่างการค้นหา โดยพื้นที่ทั้ง 3 จุด ประกอบด้วย จุดแรกคือบริเวณโซน D ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ถัดจากแนวอาคาร โดยในวันเกิดเหตุอาคารถล่มจากภาพจะเห็นว่าจะมีซากของอาคารกองล้นออกมาจากตัวของอาคาร ตรงนั้นจึงเป็นจุดที่จะมีการเปิดการค้นหาเพิ่มเติม ไปจนถึงจุดที่มีทรายถมโดยหากมีการค้นหาไปถึงจุดที่มีทรายถมแล้วก็จะยุติการค้นหา
อีกจุดคือบริเวณโซน A ต่อกับโซน D ด้านหน้า ซึ่งจะมีการค้นหาเพิ่มเติมในวันนี้ เพื่อคลายข้อสงสัยว่าไม่มีใครติดค้างอยู่ในพื้นที่ของอาคารถล่ม และจุดสำคัญคือบริเวณโซน B ซึ่งมีลักษณะเป็นเนิน ติดอยู่กับอาคาร จากการตรวจสอบของสุนัข K9 ช่วงเช้าที่ผ่านมาพบสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอาจจะมีผู้ที่ติดค้างตรงจุดดังกล่าว
โดยข้อมูลของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้กลิ่นโชยมาเป็นระยะในพื้นที่โซน B ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการในการรื้อซากปูนออก เพื่อเข้าไปให้ถึงจุดที่ K9 ชี้เป้าไว้ในโซน B เจ้าหน้าที่เข้าด้านข้าง คอยเซาะปูนและตัดเหล็กด้านข้างเพื่อให้แคบลงไป วันนี้หากไม่มีปัญหาและอุปสรรค คาดว่าจะสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด 3 จุด ทั้งนี้ หากตรวจพบหรือไม่พบก็จะให้ผู้อำนวยการเขตพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนจะเจอร่างจากผู้สูญหายจากพื้นที่โซน B ที่ชั้นใต้ดินหรือไม่นั้น ส่วนตัวคาดหวังว่า จะเจอร่างผู้สูญหายในพื้นที่โซน B เพราะก่อนหน้านี้ก็เจอที่จุดใกล้ปล่องบันได ในวันนี้เป้าหมายคือการนำกองเศษซากในพื้นที่โซน B ที่อยู่ในชั้นใต้ดินออก ส่วนการรื้อถอนบริเวณจุดดังกล่าว เรามีการระวังในการปฏิบัติงาน เนื่องจากเสาบริเวณชั้นใต้ดินที่หักอยู่และยังโป่ง ซึ่งเราจะไม่ให้รถแบ๊กโฮหรือเครื่องจักรหนักเข้าไปเหยียบ แต่จะใช้แขนรถแบ๊กโฮในการยืด สกัดปูนออก และตัดเหล็ก เพราะฉะนั้นจะไม่มีน้ำหนักเพิ่ม มีแต่น้ำหนักลดลงด้วยซ้ำ
ส่วนจะส่งมอบพื้นที่คืน สตง.ตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ นายสุริยชัยยืนยันว่า ยังอยู่ในกรอบเวลาเดิม และหลังจากนี้จะมีการตรวจสอบกองดินให้ละเอียดเพิ่มขึ้น หลังพบชิ้นส่วนมนุษย์ โดยเราจะใช้ภาพจากโดรนที่ถ่ายได้นำมาทำเป็นตารางและผสานกับเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยสุนัข K9 ในการแบ่งโซนเพื่อค้นหาให้ครอบคลุมมากขึ้นในการค้นกองดิน ส่วนผลการค้นหาเมื่อช่วงวานนี้เจอร่างสมบูรณ์ 1 ร่าง และอีก 5 ชิ้นส่วน
โดยช่วงบ่ายวันนี้จะเป็นการประชุมเกี่ยวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาตัวเลขผู้ประสบภัยที่แจ้งยอดไว้ โดยจะพูดคุยในเชิงลึกกับพนักงานสอบสวน รวมถึงระยะเวลาที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรายงานความคืบหน้า และยืนยันตัวเลขผู้สูญหายที่แจ้งเข้ามาว่ายังติดค้างอยู่ในอาคาร สตง. หรือเดินทางไปที่อื่นแล้ว
นายสุริยชัย กล่าวด้วยว่า การประชุมในวันนี้ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ คณะทำงานซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ การประชุมวันนี้ได้มีการวางกรอบการทำงานเกี่ยวกับแนวทางการจัดเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอาคาร สตง.พังถล่ม เบื้องต้นได้เน้นย้ำว่าการเก็บหลักฐานจะต้องมีการประสานเพื่อเข้าไปเก็บพยานหลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลางตำรวจและการเก็บหลักฐานจะไม่เข้าไปเก็บซ้ำในบริเวณที่เคยเข้าไปเก็บก่อนหน้านี้
ส่วนที่มีรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะเดินทางมาร่วมประชุมกับผู้เกี่ยวข้องวางแผนเตรียมการเพื่อส่งมอบพื้นที่คืน และยกเลิกประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัตินั้น นายสุริยชัยกล่าวว่า จะต้องรอการค้นหาผู้สูญหายให้เสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดก่อนที่จะมีการหารือกับ ผอ.เขตกำหนดแนวทางที่ชัดเจนต่อไป
นายสุริยชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ การคืนพื้นที่อาคารที่เกิดเหตุให้กับ สตง.นั้น ผู้อำนวยการเขตได้ทำหนังสือเตรียมความพร้อมไว้เบื้องต้นแล้ว ส่วนพื้นที่ที่นำพยานหลักฐานไปเก็บไว้ตรงบริเวณพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. จะมีการพูดคุยหารือในลำดับถัดไป