ผู้ว่าฯ กทม.เผยคืบหน้ารื้อซากตึก สตง.ถล่ม คาดใช้เวลา 4 วัน จะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด ส่วนหน้าที่หลักคือการค้นหาผู้ที่ยังติดค้างเพื่อส่งคืนญาติ พร้อมให้ความร่วมมือเก็บหลักฐานเต็มที่
วันนี้ (5 พ.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหายและรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ว่า การรื้อเป็นไปได้ดีไปจนถึงบันไดที่เรียกว่า SC2 ของชั้นใต้ดินโซน C ซึ่งไม่น่าจะมีผู้ติดค้างอยู่แล้ว วันนี้จะเดินหน้าต่อที่บันไดฝั่งซ้าย โซน B หรือ ST1 ที่ผ่านมามีการรายงานตัวเลขผู้สูญหาย 8 คน แต่ทางตำรวจเพิ่มคนมาอีก 6 คน รวมคนที่ยังสูญหายจำนวน 14 คน นอกจากนี้มีชิ้นส่วนที่พบและได้ส่งให้พิสูจน์หลักฐานตำรวจที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวกลับมา ซึ่งยังรอการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ ทั้งนี้ยังมีพื้นที่อีกไม่กี่พื้นที่ที่จะต้องทำการค้นหาเพิ่มเติม บริเวณโถงทางเดิน ST1 ที่เชื่อมไปยังอาคารจอดรถด้านหลัง และบริเวณรอบๆ อาคารที่มีของหล่นลงมาตกทับ
ทั้งนี้คาดว่าจะยังคงทำงานต่อเนื่องอีกประมาณ 3-4 วันจะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด ส่วนประเด็นคนที่เพิ่มมานั้นส่วนตัวไม่ได้ดูในรายละเอียด เข้าใจว่าอาจจะมีการแจ้งไว้วันแรกและมีการสืบสวนกันเพิ่มเติมจะต้องไปถามทางพิสูจน์หลักฐาน เพราะส่วนตัวไม่ได้ดูในรายละเอียดว่า 6 คนที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนไหนอย่างไร ทั้งนี้ใน 6 คนนี้อาจจะมีหนึ่งคนที่เจอแล้วก็อาจจะมีความคลาดเคลื่อน แต่เราจะเดินหน้าค้นหาต่อไป
ส่วนการพิสูจน์หลักฐาน ทางกรมโยธาธิการร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้เดินหน้าตลอด พยายามให้ความร่วมมือเต็มที่จะให้มีการเก็บหลักฐานในส่วนไหนก็จะทำไว้ให้ ซึ่งมีจัดการเก็บตัวอย่างไปหลาย 100 ชิ้นตัวอย่างแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะต้องไปตรวจสอบดูว่าในพื้นที่ไหนที่จะต้องทำการยุติการค้นหา ก่อนจะมีการส่งคืนพื้นที่โดยได้แจ้งกับผู้รับผิดชอบไปแล้วว่าจะต้องมีวันหนึ่งที่จะต้องถอนออกจากพื้นที่ ทาง สตง.คงจะต้องเป็นเจ้าของเรื่องที่จะต้องไปดำเนินการต่อทั้งจุดเกิดเหตุ และจุดที่นำซากเหล็ก ปูน ฯลฯ ไปวางไว้บริเวณพื้นที่การรถไฟแห่งประเทศไทย
นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ไม่มีอะไรหนักใจ เราทำหน้าที่ของเราไป ที่กังวลคือทำไม 14 คนยังหาไม่เจอ เพราะมีการเปิดพื้นที่ไปเยอะมากแล้ว แต่ยังเหลือโซนสุดท้ายบริเวณช่องบันไดทางซ้ายมือ
ส่วนผู้ประกอบการโดยรอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะมีการหารือกับ ปภ.เพื่อดูเรื่องการเยียวยาหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า จริงๆ มี 2 ส่วนคือ 1 ผลกระทบจากการจอดรถต่างๆ ซึ่งพยายามคืนพื้นที่ไปเยอะแล้ว ส่วนผลกระทบจากด้านอื่น จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าอยู่ในกระบวนการเยียวยาหรือไม่ ซึ่งมีหลายปัจจัยจะต้องแยกให้ชัดเจนว่ามีผลกระทบจากแผ่นดินไหวเท่าไหร่ และมีผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจบริเวณนี้อย่างไร ซึ่งได้ให้ทางผู้อำนวยการสำนักงานเขตจตุจักรรวบรวมข้อมูลอีกครั้ง หน้าที่หลักของกรุงเทพมหานครคือการค้นหาผู้ที่ยังติดค้างเพื่อส่งคืนญาติ