ผบช.ไซเบอร์ แถลงปฏิบัติการทลายรังรักฟิวแฟน จับรอบสองเว็บซื้อขายบริการทางเพศรายใหญ่ ลุยค้น 2 จุด จับผู้ต้องหา 10 ราย ยึดของกลาง 2 แสนบาท
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. แถลงข่าวเปิดปฏิบัติการทลายรังรักฟิวแฟน จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ยึดของกลางมูลค่ากว่า 2 แสนบาท
สืบเนื่องจากศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตคม.ตร.) และ บก.ปคม.ได้จับกุมเว็บไซต์ fiwfans (ฟิวแฟน) เว็บไซต์ค้าประเวณีในรูปแบบออนไลน์ โดยมีแอดมินเป็นตัวกลางในการนัดหมายระหว่าง หญิงผู้ค้าประเวณี กับลูกค้า ซึ่งครั้งนั้นจับกุมแอดมินและหญิงขายบริการจำนวนมาก
ต่อมาตำรวจไซเบอร์ได้รับการร้องเรียน ว่า ยังมีการลักลอบเปิดเว็บไซต์ โดยเปลี่ยนรูปแบบชื่อเว็บเปลี่ยน url จากเดิม fiwfans เป็น fwfans แต่พฤติการณ์ยังเหมือนเดิม จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าตรวจค้น 2 จุด โดยจุดแรกตรวจค้นอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านสะพานพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี และคอนโดแห่งหนึ่งภายในซอยพหลโยธิน 62 จ.ปทุมธานี ก่อนจับกุมผู้ต้องหารวม 10 ราย พร้อมของกลางรวมกว่า 2 แสนบาท ในจำนวนนี้มีหนึ่งรายเป็นสัญชาติลาว
สอบสวนให้การรับสารภาพ ว่า ทั้งหมดสมัครใจในการขายบริการ โดยจะมีเอเยนซี เป็นนายหน้าชักชวนให้นำรูปมาโพสต์ที่เว็บดังกล่าว จากนั้นเว็บดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการจัดหาผู้ให้บริการทางเพศ (ทั้งผู้หญิง และ กลุ่ม LGBTO) และมีรายได้จากดำเนินการดังกล่าวแบ่งเป็นสัดส่วนตามที่ได้ตกลงกัน
ส่วนหญิงขายบริการจะเปิดห้องเช่ารายวันรายเดือน เป็นสถานที่ในการค้าประเวณี ทั้งนี้ มีกลุ่มหญิงสาวและกลุ่มสมัครเป็นผู้ให้บริการและลงภาพโฆษณาตนเอง ผ่านเว็บดังกล่าวกว่า 2,000 ราย ในระยะเวลา 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม คาดว่า เงินหมุนเวียนที่คาดว่าได้มาจากการกระทำผิด รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท จึงแจ้งข้อหา โฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้ทำให้วิธีใดไปยังสาธารณะในลักษณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อเพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะประสานไปทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อเสนอปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวแล้วพร้อมสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนี และตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป