xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้ารื้อถอนซากตึก สตง.เปิดโซนใต้ดินเข้าถึงปล่องลิฟท์ได้แล้ว เตรียมเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผอ.สปภ.กทม. เผยความคืบหน้ารื้อถอนซากตึก สตง.ถล่ม ล่าสุดสามารถเปิดโซนใต้ดินเข้าถึงปล่องลิฟท์ได้แล้ว ด้านตำรวจและดีเอสไอเตรียมเข้าเก็บหลักฐานเพิ่มบริเวณดังกล่าวถือเป็นจุดสำคัญ เชื่อว่าเป็นสาเหตุทำให้อาคารถล่ม

วันนี้ (2 พ.ค.) นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (ผอ.สปภ.กทม.) แถลงความคืบหน้าการค้นหาร่างและรื้อถอรซากอาคาร สตง.ถล่มในเขตจตุจักรว่า จากการเปิดพื้นที่โซน D2 เชื่อมกับโซน C คาดว่าจะพบผู้ประสบภัยวานนี้ ล่าสุดพบผู้ประสบภัยจำนวน 41 เคส ประกอบด้วยร่าง 13 ร่าง ที่แพทย์ยืนยันแล้วและอีก 2 ร่าง รอการยืนยัน ที่เหลือเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ปัจจุบันการเปิดพื้นที่โซนดังกล่าว โดยเฉพาะโซน C ที่เชื่อมกับอาคารด้านหลัง ยังลงไปไม่ถึงชั้นใต้ดิน ซึ่งมีความสูง 4 เมตร คาดว่าทางเดินลงชั้นใต้ดินลึกประมาณ 2-3 เมตร โดยวันนี้จะเพิ่มเครื่องจักรหนักเพื่อลงไปให้ถึง คาดว่าจะพบผู้ประสบภัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะบริเวณช่องบันไดและโถงด้านหน้า หากการดำเนินงานในวันนี้เป็นไปตามแผน คาดว่าคืนนี้จะพบผู้ประสบภัยเพิ่ม

ทั้งนี้ยังสามารถเปิดโซนบริเวณใต้ดินและเข้าถึงบริเวณปล่องลิฟท์ ได้แล้ว และเร่งค้นหาผู้สูญหาย โดยเฉพาะช่วงทางเชื่อมระหว่างอาคาร ชั้น 3 กับอาคารที่ถล่มลง บริเวณโซน C และอาคาร B ซึ่งเป็นทิศทางหลบหนีของผู้ประสบเหตุ โดยเชื่อว่าบางรายอาจติดค้างอยู่บริเวณบันได ในขณะที่บางส่วนอาจหนีออกมาทันและกระจายตัวอยู่บริเวณโถงด้านหน้าและขอบอาคาร และข้อมูลจากผู้รับเหมาที่ยืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในบริเวณโซน D ก่อนเกิดเหตุสอดคล้องกับการพบร่างผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ในจุดที่สูงจากชั้นใต้ดินไม่เกิน 1 เมตร

ขณะที่วันนี้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สน.บางซื่อ เข้าเก็บเสาปูนอาคาร และผนังช่องลิฟท์ เหล็ก บริเวณช่องตัวอาคารลิฟท์ ที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่ม ซึ่ง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อ ต้องการเก็บหลักฐานบริเวณปล่องปล่องลิฟท์ ซึ่งถือว่ามีรายละเอียดสำคัญมากกว่าตรงจุดอื่น ทางเจ้าหน้าที่จะมีการกั้นพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อให้เข้าตรวจสอบ จะยังไม่รื้อถอน

ส่วนข้อมูลจากกองอำนวยการร่วมระบุว่า ขณะนี้มีผู้ประสบเหตุรวม 103 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 74 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และสูญหาย 20 ราย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการติดตามและยืนยันตัวตน แม้จะสามารถระบุตัวผู้ประสบเหตุได้ครบ 103 รายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดพื้นที่เข้าค้นหาได้ครบทุกโซน จึงต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่อความรอบคอบ และตรวจสอบว่ามีผู้สูญหายเพิ่มเติมจากยอดที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยต้องรอการยืนยันจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง

โดยคาดว่า การค้นหาและรื้อถอนซากอาคารได้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หากยืนยันว่า ไม่มีผู้ประสบภัยตกค้างในพื้นที่ ก็จะเสนอรายงานต่อผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อพิจารณายกเลิกการประกาศเขตบรรเทาสาธารณภัย และคืนพื้นที่ให้กับเจ้าของอาคาร
กำลังโหลดความคิดเห็น