นายกสภาทนายความชี้ ผู้รับเหมายินดีช่วยเหลือเหยื่อ ตึกสตง.ถล่มแบบไม่ผูกพันทางคดี ระบุ ยื่นฟ้องอาญาต้องรอดีเอสไอสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการ ส่วนฟ้องแพ่งสภาภทนายความสามารถจัดหาทนายแล้วยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่มเหมือนคดี "หมอคางดำ"
วันนี้ (29 เม.ย.) นายวิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่สภาทนายความพร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษจะพูดคุยกับตัวแทนของบริษัทผู้รับเหมาและสถานทูตจีนเพื่อหารือแนวทางเยียวยาผู้เสียหายจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง.ถล่ม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายวิเชียร กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้ประสานผ่านมายังตน ในฐานะนายกสภาทนายความ เพื่อให้เป็นตัวกลางในการนำรัฐบาลจีนและตัวแทนของบริษัทผู้รับเหมาซึ่งเขามีความประสงค์ที่จะเจรจากับตัวแทนกลุ่มผู้เสียหายเพื่อขอชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งทางตัวแทนรัฐบาลจีนและผู้รับเหมานั้นต้องการที่จะเยียวยาให้กลุ่มผู้เสียชีวิตแบบไม่ผูกพันในการที่ผู้เสียหายจะไปฟ้องร้องดำเนินคดี เป็นการให้โดยความตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้เสียหายมากกว่า ส่วนข้อเรียกร้องที่ทางผู้เสียหายต้องการที่จะให้ทางสภาทนายความช่วยเหลือนั้นเป็นการขอร้องให้ช่วยเหลือในทางด้านกฎหมาย
เมื่อถามว่าการให้เงินเยียวยาแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องรอการกู้ซากตึกให้สำเร็จก่อน นายวิเชียร กล่าวว่า ตรงส่วนนี้ผู้บาดเจ็บตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการได้รับเงินเยียวยา แต่กลุ่มคนที่เสียชีวิตก็อาจจะต้องไปเจรจากับทางตัวแทนผู้รับเหมาว่า ใครที่มีใบมรณะบัตรและใบรับรองทางการแพทย์ว่าเป็นผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งก็น่าจะได้รับเงินเยียวยาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่การเจรจาระหว่างตัวแทนผู้เสียหายและทางตัวแทนผู้รับเหมา
เมื่อถามว่าทางสภาทนายความยังมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายแล้วหรือยัง นายวิเชียร กล่าวว่า ทางสภาทนายความได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้เสียหายตั้งแต่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ๆ เนื่องจากเราเคยมีประสบการณ์เชิงรุกในการทำงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คล้าย ๆ กันแล้วไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์โรงแรมในจังหวัดนครราชสีมาถล่มเมื่อหลายปีก่อน
เมื่อถามว่าการยื่นฟ้องดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นจะเป็นการยื่นฟ้องดำเนินคดีแบบกลุ่มหรือว่าเป็นการยื่นฟ้องแบบรายบุคคล นายวิเชียร กล่าวว่า ในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วน ซึ่งในทางคดีอาญาเราจะต้องรอทางกรมสอบสวนคดีพิเศษรวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นส่งไปยังพนักงานอัยการเพื่อดำเนินคดี ซึ่งในส่วนนี้ผู้เสียหายสามารถมีสิทธิที่จะขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมในบางข้อหาหรือฐานความผิดบางอย่างที่อนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ หรือผู้เสียหายก็สามารถที่จะเป็นผู้ฟ้องคดีเองได้ด้วย ส่วนทางคดีแพ่งนั้น ผู้เสียหายสามารถจะให้ทางสภาทนายความจัดหาทนายความเพื่อเข้าไปฟ้องเป็นคดีทางแพ่งและสามารถยื่นฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม เหมือนกับกรณีปลาหมอคางดำที่ก่อนหน้านี้มีการยื่นฟ้องคดีแพ่งและเป็นการดำเนินคดีแบบกลุ่มมาแล้ว