ดีเอสไอร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ผู้แทน PKW และ บ.อิตาเลียนไทยฯ ลงพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม เข้าเปิด 24 ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ตั้งสำนักงานชั่วคราว รวบรวมหาหลักฐานเอาผิดคดีนอมินี-ฮั้วประมูล ไม่กังวลเอกสารเคยถูกลักลอบขนออกเพราะได้คืนมาหมดแล้ว
วันนี้ (28 เม.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย กรมโยธาธิการและผังเมือง ตำรวจ สน.บางซื่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ผู้แทนจากกิจการร่วมค้า PKW และผู้แทนบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ร่วมประชุมที่กองอำนวยการร่วม ก่อนเข้าเปิดตู้คอนเทเนอร์ที่ดีเอสไอ อายัดไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งหมด 24 ตู้ ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นที่ตั้งสำนักงานชั่วคราว และภายในมีการเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่พังถล่ม ซึ่งทางดีเอสไอจะต้องทำการตรวจสอบ เพื่อนำไปใช้ในการประกอบสำนวนคดีนอมินี และคดีฮั้วประมูล
การเข้าตรวจสอบจะแบ่งชุดปฏิบัติการเป็น 4 ชุด ซึ่งแต่ละชุดจะประกอบไปด้วยตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง และดีเอสไอ ชุดที่ 1 และ 2 จะมีผู้แทนจากบริษัท อิตาเลียนไทยฯ นำตรวจค้น ส่วนชุดที่ 3 และ 4 จะมีผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW นำตรวจค้น โดยจะเน้นหาเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสนอราคา ทั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบตู้ที่ 19 เนื่องจากภายในมีชั้นวางสำหรับใส่เอกสารอยู่จำนวนมาก และจะมีการตรวจทีละตู้ หากตู้ไหนไม่ได้ใช้งานก็จะส่งมอบทรัพย์สินคืน ส่วนตู้ไหนที่มีหลักฐาน ก็ให้ทำการตรวจยึดไว้
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดี ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันกับกรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองพิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบเอกสารที่อยู่ภายในตู้คอนเทเนอร์ในจุดเกิดเหตุ ซึ่งได้ยึดอายัดไว้ทั้งหมด 24 ตู้ เพื่อนำเอกสารมาประกอบสำนวน
โดยวันนี้จะแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 4 ชุดปฏิบัติการ เข้าตรวจสอบเอกสารทั้งหมด สิ่งที่อยากได้คือเอกสารเกี่ยวกับการก่อสร้าง Shop Drawing เอกสารระหว่างผู้รับจ้างช่วง เอกสารการทำงานของวิศวกรจีน-วิศวกรไทย รายละเอียดการตรวจวัสดุ เช่น คอนกรีต เหล็ก ซึ่งเป็นเอกสารที่ไม่มีอยู่ที่สำนักงาน สตง. และหน่วยงานที่เคยเข้าตรวจค้นแล้วก่อนหน้านี้ โดยเอกสารที่ได้มาส่วนใหญ่จะเป็นเอกสารที่เป็นการติดต่อกับทางราชการเป็นหลัก
ส่วนจะมีความกังวลหรือไม่ว่า เอกสารจะอยู่ไม่ครบ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกรณีที่ชาวจีนลักลอบขนออกไป ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า ไม่กังวล เพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเอกสารที่เคยมีการขนออกไปก็ยืนยันว่าได้กลับคืนมาครบหมดแล้ว
โดยวันนี้ได้มีตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และกิจการร่วมค้า PKW เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยตามขั้นตอน ส่วนบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ไม่ได้ส่งผู้แทน เพราะบริษัท อิตาเลียนไทยฯ มาในนามบริษัทร่วมอยู่แล้ว ทั้งนี้ เอกสารที่ได้จะถูกนำไปใช้ทั้งหมด 2 ส่วน คือในการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการสืบสวนข้อเท็จจริงของกรมโยธาธิการและผังเมือง จึงทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว
ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า การเรียกสอบปากคำวิศวกร 40 ราย ได้ดำเนินการเรียกไปทั้งหมดแล้ว และจะเริ่มทยอยสอบวันละ 10 ราย เริ่มวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย. 68) และจะสอบปากคำไปต่อเนื่อง 4 วัน แต่ก็ต้องรอดูว่าวิศวกรจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำตามที่เรียกไปครบหรือไม่
สำหรับในวันนี้ ถือว่าครบรอบ 1 เดือนของเหตุการณ์อาคาร สตง.ถล่มแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานยังคงเร่งค้นหาผู้เสียชีวิตอย่างต่อ ขณะที่ยอดผู้ประสบเหตุยังคงอยู่ที่เหตุ 103 ราย เสียชีวิต 63 ราย บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างติดตาม 31 ราย