ตำรวจ ปคบ. สนธิกำลังร่วมกับ อย. บุกทลายโรงงานเมืองกรุงเก่า ลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม ส่งขายนักเสพ 4x100 ยึดเครื่องจักร-ของกลางนับแสนขวด รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
วันนี้ (25 เม.ย.) พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. นำกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 2 จุด ในพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อกวาดล้างจับกุมเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่
จากการเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ทั้ง 2 จุด สามารถตรวจยึดยาแก้ไอปลอมกว่า 172,000 ขวด พร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต และวัตถุดิบจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 20,000,000 บาท
พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากที่ผ่านมา มีการลักลอบนำยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ หรือยาบางชนิดมาใช้ผสมกับน้ำกระท่อมดื่มเพื่อสร้างความมึนเมาและเสพติดเป็นจำนวนมาก หรือที่เรียกกันว่า 4X100 ส่งผลให้เกิดการลักลอบผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจัดกำลังลงพื้นที่พบเบาะแส มีกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอม กลุ่มหนึ่งลักลอบผลิต และบรรจุสินค้าอยู่ในพื้นที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยขบวนการดังกล่าว จะนำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่าง ๆ มาผลิตในโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.บ้านหีบ จากนั้นจะนำมาแบ่งบรรจุลงขวด ที่โกดังอีกแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.2 ต.บ้านหีบ ห่างกันประมาณ 500 เมตร โดยมีแรงงานต่างชาติเป็นคนงาน และจะย้ายสถานที่ผลิตไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ยากแก่การติดตามตรวจสอบ
พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังทราบว่ามีการทำกันเป็นเครือข่ายใหญ่ รับจ้างผลิตและจำหน่ายให้กับเครือข่ายอื่น ๆ ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ,จ.นครปฐม และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. เคยนำกำลังเข้าตรวจค้นไปแล้วเมื่อช่วงเดือน ส.ค. 2567 และ ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงจะกระทำผิดซ้ำ ๆ จึงตัดสินใจประสานข้อมูลร่วมกับทาง อย. และ สาธารณสุขจังหวัด ขออำนาจศาลเข้าตรวจค้นจนนำมาสู่การตรวจยึดยาแก้ไอปลอม พร้อมอุปกรณ์เครื่องจักร ที่ใช้สำหรับผลิต มูลค่ารวมกว่า 20 ล้านบาทดังกล่าว ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอมดังกล่าวในข้อหา ฐาน “ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ผลิต และขายยาปลอม” ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
