xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ" พบเอกสารแก้แบบตึก สตง. 9 ครั้ง มีปัญหาครั้งที่ 4 กับ 6 แก้แบบปล่องลิฟต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ดีเอสไอ" เผยกรณีตึก สตง. ถล่ม เอาผิดผู้ต้องหาคดีนอมินีแล้ว เตรียมขยายผลฮั้วประมูลพบมีการแก้ไขแบบ 9 ครั้ง มีปัญหาแก้แบบปล่องลิฟต์

วันนี้ (24 เม.ย.) เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ , ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ , พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภคและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงกรณีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ของกิจการร่วมค้าที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกิดเหตุถล่มหลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวฯ (คดีพิเศษที่ 32/2568)

พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม มีผู้มาร้องขอให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับเป็นคดีพิเศษ 4 ประเด็น 1.คดีนอมินี 2.คดีฮั้วประมูล 3.คดีเหล็ก และ 4.คดีใบกำกับภาษีปลอม โดยรับคดีพิเศษที่ 32/2568 (คดีนอมินี) มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย เป็น คนไทย 3 ราย (นายโสภณ มีชัย , นายประจวบ ศิริเขตร และ นายมานัส ศรีอนันท์) ส่วนอีก 1 ราย นายจาง ชาวจีน และนิติบุคคลอีก 1 ราย คือ บริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ มีการขยายผลรับคดีฮั้วประมูลเรียบร้อยแล้ว

ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยว่า คดีนอมินี มีการออกหมายจับผู้ต้องหาและเข้าสู่กระบวนการแล้ว ดีเอสไอจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน โดยผู้ต้องหาได้ประกันตัวในชั้นศาล ซึ่ง 3 คนไทยจะขอชี้แจงเป็นหนังสือต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในบางประเด็นที่ไม่ตอบ เช่น ถือหุ้นแทนใคร เป็นต้น ส่วน นายจาง คนจีนมีผู้แทนทูตพาณิชย์จีนเดินทางเอาหนังสือรับรองมายืนยันว่าเป็นผู้ถือหุ้นแทนจริง และยังให้การปฏิเสธเรื่องนอมินี โดยบอกว่ามันคือการที่เขามาลงทุนร่วมกับคนไทย ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การอย่างไรก็ได้แต่สุดท้ายดีเอสไอต้องรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงอื่นๆ ส่วนฮั้วประมูลรับเป็นคดีพิเศษแล้วที่คดีเกี่ยวเนื่องพันกับคดีนอมินี

"กรณี บ.ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีโครงการสัญญากับรัฐบาล 27 สัญญา จะมีการตรวจสอบว่าเป็นสัญญาอำพรางหรือไม่ รวมทั้ง นายบิน ลิงวู อยู่ระหว่างขยายผลความสัมพันธ์กับบริษัทที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เดินทางมาพบดีเอสไอ 3 ครั้ง หลังตรวจยึดเอกสารมาได้ เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นตัวเอง จากนี้เตรียมส่ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พิสูจน์อีกครั้ง"


ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยอีกว่า ส่วน 51 วิศวกรที่มีชื่อถูกปลอมลายเซ็น ดีเอสไอเรียกมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว เริ่มวันที่ 28 เม.ย.นี้ แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นวิศวกรที่อยู่ในบริษัทหรือกิจการร่วมค้าใด รวมถึง นายพิมล เจริญยิ่ง วิศวกร อายุ 85 ปี เข้าพบตำรวจบางซื่อแล้ว ดีเอสไอก็ส่งชุดสอบสวนร่วมด้วย ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การคร่าวๆ ไว้แล้วว่าเป็นเพียงที่ปรึกษาของบริษัท อย่างไรก็ตาม ตึก สตง. ในเอกสารพบการแก้แบบทั้งหมด 9 ครั้ง พบว่ามีปัญหาครั้งที่ 4 กับ 6 ที่มีลายเซ็นชื่อ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข เกี่ยวกับปล่องผนังลิฟต์แต่ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ส่วนทาง พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษลงพื้นที่ตึก สตง. ประสานข้อมูลกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยช่วง 10 วันแรกเป็นปฏิบัติการช่วยเหลือผู้สูญหาย จากนั้น ดีเอสไอร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์ (สมอ.) เข้าเก็บตัวอย่าง "เหล็ก" ในโครงการที่อยู่ในซากตึกและในไซต์งานที่ยังไม่ได้ใช้ รวม 240 ตัวอย่าง ส่งตรวจสอบคุณภาพว่าตกมาตรฐานหรือไม่ ก่อนมากล่าวโทษเป็นคดีพิเศษต่อไป ส่วน "ปูนหรือคอนกรีต" กรมโยธาธิการและผังเมือง เก็บตัวอย่างได้ 59 ตัวอย่าง มาพิสูจน์เรื่องวิศวกรรมว่าตึกถล่มจากสาเหตุอะไร เกี่ยวข้องกับวัสดุหรือไม่ เพื่อสนับสนุนในการดำเนินคดีของตำรวจในความผิดประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต

"ส่วน บ.ซิน เคอหยวน ที่พบเหล็กในโครงสร้างตึก สตง. ถล่มนั้น ดีเอสไอร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าตรวจสอบบริษัทดังกล่าวเก็บตัวอย่างเหล็กและฝุ่นแดงไปแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบความผิดเตรียมพิจารณาเป็นคดีพิเศษต่อไป"


กำลังโหลดความคิดเห็น