“กัน จอมพลัง” เผยลุงกับป้าไม่รับข้อเสนอ “พีช บีเอ็ม” กรณีตั้งเงื่อนไขจ่ายเงินเยียวยา พร้อมพาไปซื้อรถคันใหม่ และลงบันทึกข้อตกลง
จากกรณีนายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ลุงกับป้า ซึ่งถูกนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช บุตรชายของ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ “นายกเบี้ยว” อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถ BMW กระแทกรถกระบะบนทางด่วน เป็นเหตุให้รถกระบะพุ่งชนแบริเออร์ จนทั้งสองได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะคุณลุงซึ่งเป็นคนขับรถกระบะยังอยู่ในอาการสาหัส ต่อมาคู่กรณียื่นข้อเสนอจะให้เงินเยียวยา จ่ายค่ารักษาพยาบาล พร้อมพาไปซื้อรถและลงบันทึกข้อตกลง แต่ต้องไม่มี “กัน จอมพลัง” ตามที่เสนอข่าวนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 เม.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ตนออกมาจากสถานีตำรวจ ลูกสาวของลุงกับป้าได้โทรมาหาตนด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ ซึ่งประโยคนี้จริงๆ ตนไม่ควรจะพูดเองควรจะบอกให้อีกฝ่ายเป็นคนพูดมากกว่า เพราะกลัวว่ามันจะดูน่าเกลียด แต่ใจความที่ลูกสาวลุงกับป้าบอกตนก็คือ
“ผมเข้าไปช่วยเหลือเขาตั้งแต่วันแรกๆ จนถึงวันนี้ทุกอย่างมันมาไกลมาก ถ้าหากไม่มีผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมาถึงทุกวันนี้ไหม ถ้าหากไม่มีผมอยู่และอีกฝ่ายเสนอเงื่อนไขนี้ขึ้นมา เขาอยู่ไม่ได้ ทุกวันนี้เขาอยากจะก้มกราบเท้าผมด้วยซ้ำ อันนี้ผมไม่อยากพูดเองเพราะมันมีคำพูดแบบนี้ ซึ่งผมขอบคุณมาก ถ้าจะเป็นการพูดคุยช่วยเหลือกันด้วยใจจริงเขาก็มองว่าไม่เห็นจำเป็นต้องมีเงื่อนไขอะไรเลย เขาก็ยินดี ทุกวันนี้ที่ผมทำให้เขามันก็ดีมากๆ อยู่แล้ว ถ้าหากไม่มีผมก็ไม่รู้ว่ามันจะมีการยื่นข้อเสนออะไรแบบนี้ไหม นี่คือการตั้งคำถาม เพราะฉะนั้น ถ้ามีการยื่นข้อเสนอแบบนี้ เขาไม่โอเค ครอบครัวเลือกผม ซึ่งขอย้ำอีกทีว่าประโยคนี้ผมไม่ควรพูดเดี๋ยวจะหาว่าผมเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ส่วนตัว ผมฟังแล้วน้ำตาจะไหล”
กัน จอมพลัง เปิดเผยอีกว่า ครอบครัวนี้เขาน่ารักมากจริงๆ ไม่ได้เป็นคนเหลี่ยมเยอะหรือลูกเล่นเยอะเลย เขาแค่เป็นตายายตาสีตาสา ที่ลำบากจริงๆ ทางครอบครัวเขาเห็นในสิ่งที่ตนทำให้เขา เขายังจำวันแรกที่ลงจากรถได้เลยที่ฝั่งคู่กรณีบอกว่าเขาเป็นคนผิด ถ้าหากไม่มีตนมาช่วยมันจะเป็นแบบนี้ไหม ตนขอบคุณที่เห็นในทุกสิ่งทุกอย่างที่ตนทำให้
สังคมก็ได้เห็นแล้วว่ามันไม่ได้เป็นตนที่กีดกัน ตนไม่ได้เป็นคนตั้งเงื่อนไขอะไรเลย หากจะเยียวยาก็เยียวยาได้เลย ถ้าหากจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลและเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่ง มูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้ว เขาก็แค่มาจ่ายคืนมันก็ไม่อะไรเลย แต่ไปที่โรงพยาบาลบอกจ่ายไม่ได้ ญาติปฏิเสธการรับเงินบ้าง ไม่มีเลย ไม่มีเงื่อนไขใดใดทั้งสิ้น
ตนรับปากกับทุกคนเลยว่าจะส่งครอบครัวให้ถึงฝั่ง มีทนายเข้ามาช่วยเหลือจะดูจนคดีความเสร็จสิ้นไม่มีการปล่อยแน่นอน ส่วนเรื่องค่ารักษาพยาบาล ทางมูลนิธิมงคล จงกล ธูปกระจ่างจะเป็นคนดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ ส่วนรถคันใหม่ของคุณตาคุณยาย ทางมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ช่วยซื้อรถคันใหม่ให้แบบไม่มีเงื่อนไข ส่วนเรื่องของความปลอดภัยตนได้ประสานกับกระทรวงยุติธรรม ซึ่งทุกวันนี้ตัวของคุณตาและคุณยายมี ชุดคุ้มครองพยานในการดูแล และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยด้วย มีเซฟเฮาส์คอยเปิดถ้าหากว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยก็เข้าไปอยู่ได้ในทันที เงินเยียวยาของรัฐตนก็ทำให้หมดแล้ว
ทั้งนี้ ตนไม่เคยตั้งเงื่อนไขอะไรเลยว่าถ้าหากตนขทำให้อีกฝ่ายแบบนี้แล้วจะต้องไม่มีคู่กรณี ตนไม่ได้สนใจอะไรเลยถ้าหากว่าครอบครัวเลือกแบบนี้ เลือกที่จะไปกับตน ตนก็จะอยู่ต่อและทำให้ถึงที่สุด แต่ถ้าหากครอบครัวบอกว่าให้พอได้แล้ว ตนจะหยุดให้ทันที
อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าไม่มีใครสั่งให้ตนหยุดหรือถอย หรือถ้ามีตนก็ไม่ถอนเพราะว่าตัวของคุณตาคุณยายบอกให้ตนไปต่อ ตนก็จะไปต่อ ตนสู้กับข่าวปลอม ข่าวลวง ลิ่วล้อ ก็เพื่อ ประโยชน์ของเคสตน อยากให้ทุกคนเข้าใจและขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ด้วย
