"สมยศ"อดีต ผบ.ตร. สุดโล่ง ศาลอาญาคดีทุจริตยกฟ้องคดีแก้ไขความเร็วรถ "บอส อยู่วิทยา" โวพ้นมลทินแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ยันไม่โกรธคนเห็นต่าง ด้าน "สว.ก๊อง- เนตร-ชัยณรงค์" ไมให้สัมภาษณ์
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบหมายเลขดำ อท 131/2567 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุดกับพวกรวม 8 คนเป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157, 200, 83, 86 พรป.ประกอบรัฐธรรมนูญญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 พรป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172,192
กรณีที่พวกจำเลยทั้งหมด ร่วมกันกระทำผิดเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานในคดี คำให้การพยาน ความเร็วรถยนต์ฯ เพื่อช่วยเหลือนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหา เพื่อให้พ้นผิด หรือรับโทษน้อยลง ที่นายวรยุทธขับรถสปอร์ตหรูปอร์เช่ เฉี่ยวชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์ เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย. 2555
ศาลมีคำพิพากษาจำคุก นายเนตร นาคสุข อดีตอัยการสูงสุด จำนวน 2 ปี และนายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส จำนวน 3 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือยกฟ้อง โดยภายหลังจำเลยทั้งหมดได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเพื่อสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์ พร้อมยื่นหลักทรัพย์ 200,000 บาท และศาลได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้งหมด
แต่ภายหลังจากได้รับการปล่อยชั่วคราวช่วงเวลา 13.40 น. จำเลย 3 ใน 8 คน อาทิ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายเนตร นาคสุข และ นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ปฏิเสธไม่ให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับทันที
ต่อมา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่ตนเองสามารถพ้นมลทิน และรู้สึกมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของไทย ทั้งนี้ตนยืนยันมาโดยตลอดว่ามั่นใจว่าสุดท้ายแล้ว ตนจะได้รับความยุติธรรมจากศาลอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากขอบคุณศาลอย่างไรบ้าง พล.ต.อ สมยศ กล่าวว่า ตนอยากขอขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ถึงแม้ในวันนี้กลุ่มคนที่ไม่เข้าใจตนหรือเคยคิดในทางลบกับตนนั้น ตนไม่เคยโกรธกลุ่มคนเหล่านั้นเลย เพราะอาจจะได้รับข้อมูลในอีกด้านหนึ่งมา
เมื่อถามว่าหลักฐานในส่วนใดที่ทำให้ตนเองพ้นมลทิน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ความจริงก็คือความจริง ศาลท่านได้ฟังและรู้ว่าส่วนไหนคือความจริง นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ตนพ้นมลทิน และก่อนหน้านี้ในการไต่สวนตนก็ได้พูดความจริงทั้งหมดต่อศาลด้วย จึงรู้สึกภูมิใจกับกระบวนการยุติธรรมที่ให้ความยุติธรรมกับตนเอง
เมื่อถามว่ามองความเห็นแย้งของอธิบดีเป็นอย่างไร พล.ต.อ สมยศ กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนต้องปฏิบัติตามหน้าที่ โดยศาลสั่งอะไรตนมาก็ขอยืนยันว่าพร้อมที่จะทำตามคำสั่งของศาลอย่างแน่นอน โดยเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวของตนนั้นมีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศ แต่ก็ไม่ได้กระทบกับการดำเนินชีวิตเพราะการเดินทางออกนอกประเทศแต่ละครั้งก็สามารถขออนุญาตได้ รวมทั้งครั้งนี้ได้ใช้หลักทรัพย์เดิมและเงื่อนไขเดิมในการยื่นประกันตัว เนื่องจากถึงแม้ศาลจะยกฟ้องก็มีคำสั่งให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์จึงต้องทำเรื่องขอประกันตัว ซึ่งทั้ง 8 คน ก็ได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วนกรณีการจะยื่นขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดหรือไม่นั้นเพื่อไม่ให้อัยการอุทธรณ์ จากนี้จะต้องไปปรึกษาทนายถึงเรื่องดังกล่าวเกี่ยวกับรายละเอียด
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณศาลที่มีเมตตาให้นั่งฟังระหว่างการอ่านคำพิพากษา เนื่องจากเป็นครั้งแรกในชีวิตของตนเองที่ถูกดำเนินคดีถึงขั้นพิพากษา