xs
xsm
sm
md
lg

"ทวี-ดีเอสไอ" แถลงจับกุม "ชวนหลิง จาง" กรรมการ "ไชน่า เรลเวย์ฯ" ถือหุ้น 49% ส่วนอีก 51% ใช้ 3 คนไทยเป็นนอมินีถือแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - รมว.ยุติธรรม แถลงจับ "ชวนหลิง จาง" กรรมการถือหุ้น 49% บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ส่วนอีก 51% ใช้คนไทย 3 คนเป็นนอมินีถือแทน รับงานก่อสร้างอาคาร สตง. ยันยังเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา พร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจง ส่วนคนไทย 3 คนอยู่ระหว่างติดตามจับกุม

วันนี้ (19 เม.ย.) เวลา 19.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลจับกุม นายชวนหลิง จาง กรรมการผู้ถือหุ้น 49% ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่พังถล่มลงมา ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ภายหลังศาลอาญา อนุมัติหมายจับนายชวนหลิง จาง พร้อมผู้ถือหุ้นคนไทยในบริษัทรวม 4 คน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย คนไทย 3 ราย ส่วนอีก 1 ราย เป็นชาวต่างชาติ และนิติบุคคลอีกหนึ่งราย คือบริษัทไชน่าฯ ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) ซึ่งหากจะเป็นการประกอบธุรกิจของต่างด้าวต้องมีคนไทยถือหุ้น 51% และต่างด้าวถือหุ้น 49% ซึ่งมีการสอบสวน และหลักฐานเชื่อได้ว่า บริษัทได้นำคนไทยจำนวน 3 คน ที่เราอยู่ระหว่างการติดตามไปถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เนื่องจากเรามีหลักฐานทางการเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ที่กู้ยืมกับกรรมการบริษัทที่เป็นคนจีน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ในกระบวนการตรวจสอบต้องลึกลงไป เช่น เราพบว่ามีสัญญาออกแบบ ที่เป็นเรื่องของ สตง. และผู้ทำสัญญาโดยตรง เราจึงจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ ค่อนข้างเยอะ ทั้งวิศวะ และสถาปนิก รวมถึงยังมีอีก 1 สัญญา คือสัญญาการควบคุมงาน ซึ่งเราได้สอบปากคำไปเยอะแล้ว และวิศวกรที่ควบคุมงานส่วนใหญ่ก็จะปฏิเสธว่ามีการปลอมลายเซ็น นอกจากนี้ ยังมีสัญญาการแก้ไขแบบที่มีถึง 9 ครั้ง ซึ่งหลักฐานต่างๆ อยู่ระหว่างการขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังมีอีก 1 สัญญาคือ เรื่องการก่อสร้างที่เกิดขึ้น แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการก่อสร้างโดยตรง แต่ก็เป็นเหตุหนึ่งของการเข้าไปทำสัญญา

"อย่างไรก็ตาม นายชวนหลิง จาง เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา เราต้องเปิดโอกาสให้เขาขี้แจง และบริษัทไชน่าฯ ก็เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เราจึงต้องเปิดโอกาสให้เขานำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ เพื่อที่เราจะพิสูจน์ว่าทำไมตึก สตง. ถล่มลงมา และทำให้คนตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเราพร้อมจะรับฟัง และดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา"


ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการอยู่ใน 3 เรื่อง คือ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 (นอมินี) , พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (ฮั้วประมูล) และ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งมี 2 เรื่องที่อาจจะไม่เป็นผลโดยตรงที่ทำให้ตึกถล่ม แต่อาจจะเป็นผลโดยอ้อมหรือการกระทำความผิดที่นำไปสู่เหตุที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเหตุผลโดยตรงที่เราอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คือความผิดตาม พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คือ วัสดุ เช่น เหล็กและปูนว่าได้มาตรฐานหรือไม่ซึ่งเรากำลังรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องนอมินีอาจจะไม่ใช่เรื่องโดยตรง แต่ก็สามารถทำให้พวกเขาเข้ามาประมูลงานในครั้งนี้ได้ จึงถือเป็นสาเหตุโดยอ้อม และความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ ก็ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวน

ขณะที่นอมินี 3 คนไทย นั้น พ.ต.อ.ยุทธนา ระบุว่า อยู่ระหว่างการติดตาม โดยยืนยันว่ายังอยู่ในประเทศไทยทั้ง 3 คน โดยทั้ง 3 คน ถือหุ้นร่วมกันที่ 51% ในบริษัท แต่เราพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ถือด้วยตัวเอง แต่เป็นการอำพรางของบุคคลต่างด้าว นอกจากนี้ บริษัทยังมีสัญญาอีก 11 สัญญา ซึ่งมีชื่อของคนไทยที่ไปร่วมมีมากกว่านั้น เราจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดูแล แต่ขณะนี้ดีเอสไอก็จะขอทำเรื่องตึกอาคาร สตง. ที่เป็นเหตุให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

ส่วนกรณีที่เป็นชาวต่างชาติ มีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. กล่าวว่า ในเรื่องของวีซ่า ยังไม่หมดอายุ จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งก็มีประวัติการเข้าออกประเทศอยู่เรื่อยๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น